สอบเข้ม “ไทยเทา” 93 แก๊งคอลฯ ปอยเปต เปิดปากสารภาพงัดวิธีลวงเหยื่อ

หลังจากตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ คุมตัว 93 คนไทย ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซนเตอร์ปอยเปต จากอรัญประเทศ เข้ามาดำเนินคดีที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ ตลอดทั้งวันพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาแต่ละคนอย่างเข้มข้น ก่อนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้่ (5 มี.ค.) เบื้องต้นมีการแจ้ง 4 ข้อหาหนัก คือ มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, เป็นอั้งยี่ซ่องโจร, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และหากบุคคลใดกระทำความผิดอื่นเพิ่มเติมก็จะดำเนินคดีแบบรายคดี
พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ บอกว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่รับว่าต้องการไปหาทำงานที่กัมพูชา บางคนโพสต์โซเชียลหางานสายเทาโดยเฉพาะ และพบการเข้า-ออกประเทศหลายสิบครั้ง โดยกลุ่มคนเหล่านี้ จะทำงานอยู่ในบริเวณที่เรียกกันว่า "พลูตาสวน" ซึ่งเป็นอาคารหลังเดียว แต่ภายในอาคารจะแบ่งเป็นห้องย่อยกว่า 20 ห้อง แต่ละห้องจะถูกเรียกว่าออฟฟิศ ใช้ทำการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ มีนายทุนชาวจีนเป็นผู้สั่งการ
ผู้ต้องหาบางคนรับสารภาพว่า อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง โทรหลอกเอาเงินบำนาญผู้สูงอายุที่เกษียณราชการแล้ว และ ยังมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกว่าจะได้รับเงินคืน หรือส่วนลดค่าไฟฟ้า ให้เหยื่อติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน หรือ ควบคุมโทรศัพท์ผ่านทางลิงค์ ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะในวันที่ตำรวจกัมพูชาบุกจับกุม มีผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้ทั้งคนไทย อินเดีย และอินโดนีเซีย กว่า 1,000 คน
ส่วนทางฝั่งประเทศเมียนมา หลังจากกองกำลังป้องกันชายแดนกะเหรี่ยง BGF ได้ยุติภารกิจกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ ,หลอกลวงออนไลน์ และขบวนการค้ามนุษย์ ตามอาคารต่างๆทั้งในเมืองชเวก๊กโก่และเคเคปาร์ค จังหวัดเมียวดี มาได้เกือบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากรับภาระในการดูแลชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่ไหว ที่ผ่านมามีเพียงสถานทูตอินโดนีเซียประเทศเดียว ที่ติดต่อรับคนของตัวเองกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ปัจจุบันยังมีชาวต่างชาติอยู่ในความดูแลของกองกำลัง BGF มากกว่า 7,000 คน สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างแออัด เริ่มขาดแคลนอาหาร และเจ็บป่วย มีการเรียกร้องให้ทางการไทยช่วยประสานสถานทูตประเทศต้นทางมารับตัวกลับไปโดยด่วน
ล่าสุด พันเอก ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งที่แน่ชัดว่าจะมีการรับตัวชาวต่างชาติจากทางฝั่งเมียนมาเพิ่มเติมเมื่อไหร่ แต่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ ส่วนการดำเนินการนั้นมีรูปแบบที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่รอคำสั่งเท่านั้น สำหรับชาวต่างชาติที่จะรับตัวเพื่อส่งต่อประเทศต้นทาง ส่วนมากเป็นชาวจีน เวียดนาม อินเดีย และศรีลังกา เป็นต้น
ด้าน พันตำรวจตรี สิริวิชญ์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยความคืบหน้ากรณีการขอหมายจับ พลตรี หม่อง ชิตตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF กับพวกในคดีค้ามนุษย์ ล่าสุด พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ได้ลงนามสรุปสำนวน และส่งพยานหลักฐานไปให้กับสำนักอัยการสูงสุดแล้ว วานนี้ โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานจากพฤติการณ์ของ พลตรีหม่องชิต ตู่ และพวก ที่เกี่ยวข้องกับความผิดการค้ามนุษย์ที่อยู่นอกประเทศต่อเนื่องกับภายในประเทศ ในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และยังไม่ขอระบุจำนวนผู้ร่วมกระทำความผิด แต่ยืนยันว่ามีขบวนการคนไทยร่วมด้วย