นายกฯ - ผบ.ตร. แถลงปราบสแกมเมอร์ครั้งใหญ่ ตั้งวอร์รูมคอนโดหรูกลางกรุง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการแถลงข่าวผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี Thailand United Against Scammer “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้บัญชาการ ผู้แทนหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย 

หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ยกระดับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เป็น “วาระแห่งชาติ”  ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและเกิดผลเป็นรูปธรรม จึงสั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยในสังกัดระดมสรรพกำลังทำการป้องกันและปราบปรามในทุกมิติอย่างเข้มข้น นำมาสู่การแถลง “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” ในวันนี้

โดยพบว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการระดมกวาดล้าง-จับกุมผู้กระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม – 8 พฤศจิกายน 2568 (รวม 13 วัน) มีผลการจับกุม รวม 7,044 คดี ผู้ต้องหา 7,174 คน หนึ่งในคดีที่เป็นที่สนใจ เป็นกรณีที่ตำรวจบุกจับ 4 ชาวจีนหลอกจีน เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ โดยใช้ไทยเป็นฐานก่อเหตุ ดัดแปลงคลิปวิดีโอผ่านระบบ AI เข้าทำธุรกรรมผ่านธนาคารจีนเพื่อฟอกเงิน

กลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีน ใช้แอพพลิเคชัน AI ดัดแปลง โดยใช้ภาพนิ่ง มา ปรับให้เป็นคลิปหน้าจริง เพื่อยืนยันตัวตนทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารของประเทศจีน ซึ่งเงินที่ใช้ในการทำธุรกรรมเป็นเงินที่ได้จาก หลอกลวงคนจีน เพื่อฟอกเงิน โดยใช้สถานที่แห่งนี้เปิดเป็นที่ตั้งในการรับงานจากกลุ่มสแกมเมอร์ผ่านแอพลิเคชันเทเลแกรม

พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากข้อมูลในหลากหลายด้าน พบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือกว่า 60 เครื่องคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง ซึ่งใช้ในการสมัครทำธุรกรรมทางการเงินผ่านการใช้คลิปที่ตัดต่อ รวมทั้งพบยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงซิปล็อก 2 ถุง  ขณะเดียวกันยังจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง 4 คนซึ่งเป็นชาวจีน โดยทั้งหมดเดินทางจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวจีน และทั้งหมดเคยเดินทางไปยังประเทศที่เชื่อมโยงกับกลุ่มสแกมเมอร์ เช่นกัมพูชา ทำให้รู้จักกับเครือข่ายซึ่งประกอบไปด้วยชาวมาเลเซีย 1 คน และชาวกัมพูชา 3 คน ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างขยายผล เส้นทางการเงิน และตรวจสอบข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ 

 ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่ด่วนที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามการปฏิบัติหน้าที่ส่งกลับบุคคลต่างชาติที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลในการจัดการปัญหาความมั่นคงแนวชายแดน ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ปราบสแกมเมอร์ คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน