คลังปรับขั้นตอน"จัดซื้อจัดจ้าง" ช่วยน้ำท่วมใต้

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของประชาชน และสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนและราชการเป็นวงกว้าง จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน รวมทั้งป้องกันและแก้ไขให้สถานการณ์คลี่คลายไปโดยเร็ว ซึ่งหากดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามปกติ จะทำให้ล่าช้าและเกิดความเสียหายตามมา 

ดังนั้น คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

    1. หน่วยงานของรัฐที่ต้องดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัย หรือช่วยเหลือ เยียวยาผู้ประสบภัย รวมทั้งการป้องกันปัญหาอุทกภัย ให้ดำเนินการ ดังนี้

   1.1 การจัดซื้อจัดจ้างทุกวงเงินถือเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน โดยให้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ ข้อ 79 วรรคสอง

   1.2 หากมีความจำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินค่าพัสดุล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ให้จ่ายได้ตามเงื่อนไขที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างกำหนด และยกเว้นการวางหลักประกันการรับเงินล่วงหน้า

   1.3 ให้หน่วยงานของรัฐจัดทำประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือก เป็นรายไตรมาส

2. หน่วยงานของรัฐนอกเหนือจากข้อ 1 ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือ เยียวยาผู้ประสบภัย รวมทั้ง

การป้องกันปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง

3. ภายหลังเหตุอุทกภัยสิ้นสุดลง หากหน่วยงานของรัฐจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ทรัพย์สินกลับมาใช้งานได้ตามปกติ อันเป็นผลมาจากเหตุอุทกภัยโดยตรง ให้ดำเนินการ ดังนี้ 

               3.1 วงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งหนึ่งไม่เกิน 500,000 บาท ให้ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง 

               3.2 วงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งหนึ่งเกิน 500,000 บาท ให้ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง 

4. สัญญาจัดซื้อจัดจ้างที่ยังมีนิติสัมพันธ์อยู่และยังไม่ได้ตรวจงานงวดสุดท้าย ซึ่งได้รับผลกระทบ

จากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ให้หน่วยงานดำเนินการงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ตามหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ  

ทั้งนี้ แนวทางปฏิบัติฯ ตามข้อ 1 และข้อ 2 ให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2569  

อธิบดีกรมบัญชีกลาง  กล่าวว่า การกำหนดแนวทางปฏิบัติข้างต้น จะช่วยให้การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐในช่วงเวลาดังกล่าว มีความคล่องตัวและทันต่อสถานการณ์ สามารถช่วยหลือประชาชนผู้ประสบเหตุอุทกภัยได้อย่างทันท่วงที