รีเซต

หญิงไทยตกตึกในปอยเปต เงามืดของเศรษฐกิจชายแดนไทย–กัมพูชา

หญิงไทยตกตึกในปอยเปต เงามืดของเศรษฐกิจชายแดนไทย–กัมพูชา
TNN ช่อง16
4 พฤศจิกายน 2568 ( 11:44 )
11

คดีหญิงไทยตกตึกในปอยเปต ตำรวจไทยอายัดศพตรวจสอบ

ที่ด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่ไทยและหน่วยกู้ภัยอรัญประเทศรับร่างหญิงสาววัย 27 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น กลับจากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา หลังพลัดตกอาคารเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 เบื้องต้นตำรวจไทยได้อายัดศพเพื่อส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด

เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “IMF” เปิดเผยว่า ญาติของผู้เสียชีวิตได้มอบอำนาจให้หน่วยกู้ภัยอรัญประเทศเป็นผู้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาเพื่อดำเนินการรับศพกลับประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันตรวจสอบเอกสารและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าผู้ตายเคยทำงานเป็นพีอาร์ในฝั่งกัมพูชา และไม่ได้กลับไทยหลังการปิดด่านชายแดนในช่วงโควิด-19 ต่อมาทราบว่าเพิ่งสูญเสียแฟนหนุ่มไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ซึ่งอาจมีผลต่อสภาพจิตใจ ขณะที่กระแสข่าวที่เชื่อมโยงผู้ตายกับเครือข่ายเทรดหุ้นและทองคำมูลค่า 18 ล้านบาทนั้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เพียงแต่เคยยืมเงินจากบุคคลในเครือข่ายดังกล่าวในลักษณะ “ให้โดยเสน่หา”

เหตุการณ์ต่อเนื่อง แรงงานไทยในปอยเปตกำลังเผชิญความเสี่ยง

กรณีหญิงไทยตกตึกไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองปอยเปต ตลอดปี 2567 ถึงปลายปี 2568 มีคนไทยเสียชีวิตในพื้นที่ดังกล่าวหลายราย โดยเฉพาะกรณีของ “นายเมธาชาญ ยอแสง” เชฟหนุ่มวัย 24 ปี ที่เสียชีวิตข้างถนนหลังโรงพยาบาลในกัมพูชาปฏิเสธการรักษา เพราะไม่มีเอกสารและไม่มีเงินค่ารักษา หรือกรณีหญิงไทยวัย 28 ปีที่ถูกพบผูกคอเสียชีวิตในห้องพัก มีทรัพย์สินสูญหายและร่องรอยของความไม่ปลอดภัย

ข้อมูลจากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนระบุว่า มีคนไทยถูกหลอกไปทำงานในกัมพูชาเฉลี่ยวันละ 30 ถึง 40 คน โดยถูกชักชวนให้ทำงานในธุรกิจออนไลน์และสายเทา เช่น เว็บพนัน หรือคอลเซ็นเตอร์ ขณะที่สามารถช่วยเหลือกลับไทยได้เพียงวันละ 3 ถึง 4 คน ส่วนแรงงานที่ยังติดค้างอยู่ในเมืองกัมปอตและบาเวตมีมากกว่า 3,000 คน

ในขณะเดียวกัน แรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทยมีจำนวนราว 490,000 คน (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2568) ซึ่งเป็นแรงงานที่เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่แรงงานไทยที่เดินทางไปฝั่งกัมพูชามักเข้าไปแบบไม่เป็นทางการ ทำให้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะประสบอุปสรรคในการขอความช่วยเหลือ

กฎหมายไทยช่วยเหลือคนในต่างประเทศได้แค่ไหน

กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมการกงสุล มีหน้าที่ช่วยเหลือคนไทยที่ประสบเหตุในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรณีป่วย การถูกล่อลวง การเสียชีวิต หรือการขอเอกสารเดินทาง แต่การดำเนินการต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศปลายทาง และขึ้นอยู่กับความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

หากคนไทยเสียชีวิตในต่างแดน เจ้าหน้าที่สถานทูตหรือสถานกงสุลจะต้องดำเนินการ 3 ขั้นตอนหลัก

  1. ขอเอกสารจากประเทศปลายทาง ได้แก่ ใบมรณบัตร และใบอนุญาตนำศพออกนอกประเทศ

  2. ประสานงานกับญาติในประเทศไทยเพื่อจัดส่งเอกสารยืนยันตัวตน

  3. อำนวยความสะดวกด้านพิธีการส่งศพและการขนย้ายข้ามแดน

ในกรณีที่ญาติขาดทุนทรัพย์ กระทรวงการต่างประเทศสามารถให้ความช่วยเหลือตาม ระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยเงินอุดหนุนช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดให้ผู้ขอความช่วยเหลือต้องลงนามใน หนังสือสัญญาชดใช้เงินคืน หลังได้รับการช่วยเหลือ เพื่อให้รัฐสามารถนำงบประมาณกลับมาใช้ในกรณีอื่นได้


กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  • พระราชบัญญัติค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และฉบับแก้ไข พ.ศ. 2562 ซึ่งใช้ได้ในกรณีที่คนไทยในต่างประเทศตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์

  • พระราชบัญญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ. 2527 ใช้สำหรับกรณีที่ต้องร่วมมือกับต่างประเทศในการสอบสวนหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดน

  • พ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 และกฎกระทรวงปี 2562 ว่าด้วยการจดทะเบียนคนตายที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร เพื่อให้การรับรองเอกสารการเสียชีวิตมีผลทางกฎหมายในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการช่วยเหลือมักใช้เวลานาน เพราะต้องผ่านการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน ทั้งฝ่ายไทยและประเทศปลายทาง โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม การสืบสวนต้องอาศัยการยินยอมของเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ซึ่งอยู่เหนือขอบเขตอำนาจของรัฐไทย

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชายแดนเสนอให้จัดตั้ง ศูนย์ประสานงานฉุกเฉินไทย–กัมพูชา เพื่อดูแลแรงงานที่ตกทุกข์ในพื้นที่สีเทา พร้อมพัฒนาฐานข้อมูลแรงงานนอกระบบที่สามารถตรวจสอบตัวตนได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสร้างช่องทางร้องเรียนออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

ภาครัฐควรขยายความร่วมมือกับหน่วยงานกัมพูชาในด้านกฎหมายแรงงาน การค้ามนุษย์ และความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมให้แรงงานไทยทำงานในต่างประเทศผ่านระบบจดทะเบียนที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้รับสิทธิและความคุ้มครองตามกฎหมายทั้งสองประเทศ
 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง