รีเซต

ขั้นตอนสมัคร "โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง" ลงทะเบียนแก้หนี้ธุรกิจ SMEs รวมหนี้ ไม่เสียประวัติ

ขั้นตอนสมัคร "โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง" ลงทะเบียนแก้หนี้ธุรกิจ SMEs รวมหนี้ ไม่เสียประวัติ
Ingonn
15 ธันวาคม 2564 ( 15:49 )
4.3K

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่เป็นหนี้ ต้องการแก้หนี้ เป็นหนี้ที่ใช้ในการทำธุรกิจและมีเจ้าหนี้ตั้งแต่ 2 ราย สามารถลงทะเบียนแก้หนี้ธุรกิจ ได้แล้วผ่าน "โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง" ลงทะเบียนแก้หนี้ธุรกิจ SMEs ช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจ ที่มีเจ้าหนี้ธนาคารหลายราย มีหนี้เยอะ ต้องการปลดหนี้ ให้สามารถเจรจาแก้ไขหนี้กับเจ้าหนี้หลายรายในคราวเดียว ขยายเวลาชำระหนี้ ลดค่างวด การพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกหนี้ที่มีแผนธุรกิจชัดเจน มีประวัติการชำระหนี้ดี และมีความตั้งใจในการทำธุรกิจ 

 

ลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายรายสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้โดยตรงกับธนาคารเจ้าหนี้ หรือลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์โครงการ DR BIZ เพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับการแก้ไขหนี้ โดยธนาคารจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือนหลังจากได้รับข้อมูลและเอกสารจากลูกหนี้ครบถ้วน

 

โครงการ DR BIZ แก้หนี้ คืออะไร

เว็บไซต์โครงการ DR BIZ เป็นช่องทางในการแจ้งความประสงค์ขอรับการแก้ไขหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจหลายรายที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ระหว่างผู้สมัครกับเจ้าหนี้ดังกล่าวเท่านั้น ทุกอย่างจะขึ้นกับการตกลงร่วมกันระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการและเจ้าหนี้

 

โครงการ DR BIZ มีขึ้นเพื่อ "แก้หนี้" ช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้ของธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายรายซึ่งได้รับผล กระทบจากภาวะเศรษฐกิจ สถานการณ์ COVID-19 รวมถึงสงครามการค้า ภัยธรรมชาติ โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ เพื่อให้เกิดผลโดยเร็ว

 

โครงการ DR BIZ แก้หนี้ ดีไหม

  1. ช่วยบรรเทาภาระหนี้
    • ลดค่างวด
    • ขยายเวลาชำระหนี้
    • มีระยะเวลาปลอดหนี้

  2. ลดระยะเวลาเจรจาหนี้
    • ลดเวลาติดต่อเจ้าหนี้หลายราย
    • เจรจาหาข้อยุติได้รวดเร็วกายในกรอบระยะเวลา

  3. ไม่เสียประวัติด้านเครดิต
    • หนี้ที่ไม่เป็น NPL ไม่ถูกรายงานใน NCB

  4. ธุรกิจไม่สะดุด
    • มีเงินพอรองรับการประกอบธุรกิจ

 

เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ "DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง"

  1. มีเจ้าหนี้ธนาคาร ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป

  2. เป็นลูกหนี้ธุรกิจทุกประเภทธุรกิจ (ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา) และทุกอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจหรือชำระหนี้ได้

  3. มีสถานะหนี้ปกติ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2563 หรือเป็น NPL กับธนาคารบางแห่งตั้งแต่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป ไม่เป็นหนี้เสีย (ไม่มีการค้างชำระหนี้เกิน 90 วัน) กับเจ้าหนี้อย่างน้อยหนึ่งราย ทั้งนี้ กรณีที่เป็นหนี้เสียกับเจ้าหนี้บางราย ต้องไม่ใช่หนี้เสียที่มีอยู่เดิม โดยต้องเป็นหนี้เสียตั้งแต่ 1 ม.ค. 62 เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ COVID-19

  4. ไม่ถูกเจ้าหนี้รายใดรายหนึ่งฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ยกเว้นเจ้าหนี้ยินยอมถอนฟ้องคดี

 

ในระยะแรกเพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมุ่งกลุ่มลูกหนี้ที่มีวงเงินสินเชื่อกับเจ้าหนี้ทุกรายรวมกัน ณ วันที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่ 50-500 ล้านบาท และสามารถใช้แนวทางที่กำหนดร่วมกันดังกล่าวขยายผลไปยังกลุ่มลูกหนี้ที่มีวงเงินต่ำกว่า 50 ล้านบาทหรือสูงกว่า 500 ล้านบาท โดยความเห็นชอบและยินยอมร่วมกันระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้

 

ช่องทางการลงทะเบียนโครงการ "DR BIZ" แก้หนี้

https://www.bot.or.th/app/drbiz

 

ลูกหนี้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสมัครได้โดยตรงกับธนาคารหลักที่ใช้บริการอยู่ หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์โครงการ DR BIZ เพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับการแก้ไขหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป โดยธนาคารจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือนหลังจากได้รับข้อมูลและเอกสารจากลูกหนี้ครบถ้วน

 

เงื่อนไขการลงทะเบียนโครงการ "DR BIZ" แก้หนี้

  1. ต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้องตามความเป็นจริง โดยเฉพาะเลขประจำตัวประชาชน/เลขทะเบียนนิติบุคคล และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดต่อและรับรหัสส่งข้อมูล

  2. ในกรณีที่ไม่สะดวกที่จะกรอกข้อมูลด้วยตนเอง สามารถติดต่อสถาบันการเงินหรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ใช้บริการ

 

ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการ

  1. ลูกหนี้สมัครเข้าร่วมโครงการโดยลงทะเบียนผ่านช่องทางข้างต้น และให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น

    • ชื่อบุคคล / นิติบุคคล
    • ประเภทลูกหนี้ (บุคคลธรรมดา/ หจก./ บจก./ บมจ./ อื่นๆ)
    • เลขบัตรประชาชน / เลขประจำตัวนิติบุคคล
    • ชื่อผู้ติดต่อ
    • E-mail
    • หมายเลขโทรศัพท์มือถือ
    • รายชื่อธนาคารเจ้าหนี้ที่สะดวกให้ติดต่อกลับ

  2. ธนาคารจะติดต่อลูกหนี้กลับภายใน 5 วัน โดยธนาคารจะมีการตรวจสอบตัวตนลูกหนี้ และอาจขอเอกสารจากลูกหนี้เพิ่มเติม

  3. ลูกหนี้นำส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ธนาคารกำหนด

  4. ธนาคารเจ้าหนี้จะร่วมกันพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือ และแจ้งลูกหนี้ทราบผล รวมถึงลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ภายใน 1 เดือน หลังจากธนาคารได้รับเอกสารของลูกหนี้ถูกต้อง ครบถ้วน (ทั้งนี้ อาจขยายเวลาเพิ่มได้ในกรณีที่มีความซับซ้อน)

 

ระยะเวลาโครงการ

เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564

 

ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับจากการแก้หนี้ธุรกิจ

  1. การเข้าร่วมโครงการนี้จะช่วยให้ลูกหนี้ผู้ประกอบธุรกิจได้ติดต่อกับเจ้าหนี้จากหลายธนาคารได้ในคราวเดียว(one-stop) ช่วยลดขั้นตอนการสื่อสารระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินในภาพรวมของลูกหนี้สามารถได้ข้อยุติร่วมกันโดยเร็ว ไม่ต้องติดต่อขอเจรจากับเจ้าหนี้ทีละราย

  2. ลูกหนี้สามารถหารือปรับเงื่อนไขการชำระหนี้กับเจ้าหนี้ให้เหมาะสมก่อนที่จะกลายเป็นหนี้เสีย เพื่อบรรเทาภาระทางการเงิน และช่วยให้ลูกหนี้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

  3. เป็นช่องทางในการเข้าถึงสินเชื่อใหม่ โดยธนาคารอาจพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกหนี้ที่มีพฤติกรรมชำระหนี้ดี ตั้งใจทำธุรกิจต่อ และมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน


ทั้งนี้ วิธีการปรับโครงสร้างหนี้ และการพิจารณาให้สินเชื่อใหม่ (อัตราดอกเบี้ย การขอหลักประกันเพิ่ม) จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเสี่ยงและการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย


ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ DR BIZ 

  1. ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมโครงการ

  2. ในระหว่างที่ลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้ตามข้อตกลงของสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธนาคารจะไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด หรือเรียกเก็บค่าบริการ เบี้ยปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดเพิ่มเติมจากลูกหนี้

  3. ไม่มีเบี้ยปรับการชำระหนี้ก่อนกำหนด (prepayment fee)

 

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ค่าจ้างเจ้าหน้าที่ประเมินมูลค่าหลักประกัน ลูกหนี้อาจต้องรับภาระดังกล่าว


ลูกหนี้ได้รับสิทธิประโยชน์หรือการยกเว้นค่าธรรมเนียมใดบ้าง

  1. ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองหลักประกัน เหลือ 0.01% (ภายใน 31 ธ.ค. 64)

  2. ได้รับยกเว้น ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเพาะ อากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (ภายใน 31 ธ.ค. 64) และอื่นๆ ซึ่งจะประกาศเพิ่มเติมต่อไป

 

รายชื่อสถาบันการเงินหรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ร่วมโครงการแก้หนี้

  1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
  2. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  3. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  4. ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส
  5. ธนาคารโอเวอร์ซี-ไชนีสแบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
  6. ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
  7. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  8. ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ.
  9. ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น
  10. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
  11. ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
  12. ธนาคารอาร์ เอช บี จำกัด
  13. ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
  14. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
  15. ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  16. ธนาคารแห่งอเมริกาเนชั่นแนลแอสโซซิเอชั่น
  17. ธนาคารอินเดียนโอเวอร์ซีส์
  18. ธนาคารออมสิน
  19. ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
  20. ธนาคารดอยซ์แบงก์
  21. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
  22. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
  23. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
  24. ธนาคารมิซูโฮ จำกัด
  25. ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์
  26. ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)
  27. ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
  28. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  29. ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
  30. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
  31. ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน)
  32. ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
  33. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
  34. ธนาคารเอเอ็นแซด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
  35. ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) จำกัด (มหาชน)
  36. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
  37. บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
  38. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

 

ช่องทางการติดต่อทุกธนาคารโดยละเอียด >> คลิก

 

 

 

 

ข้อมูลจาก โครงการ "DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง