โครงการ "ปิดหนี้ไวไปต่อได้" ช่วยเหลือประชาชน มีหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาท เช็คเงื่อนไขที่นี่ ใครมีสิทธิบ้าง?

เปิดตัวโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ช่วยประชาชนที่มี"หนี้เสีย" ไม่เกิน 1 แสนบาท เริ่ม 1 มกราคม 2569
คลัง แบงก์ชาติ และสมาคมธนาคารไทย ลงนาม MOU เปิดโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ให้ SAM ซื้อหนี้เสียไม่มีหลักประกันรายละไม่เกิน 1 แสนบาท “เอกนิติ” ชี้ช่วยชีวิตคนไทย
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และร่วมเป็นเป็นสักขีพยาน การเปิดตัวโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” เพื่อแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 โดยมีนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) นายชาติศิริ โสภณพณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนสมาคมธนาคารไทย น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสิทรัพย์สุขุมวิทหรือ SAM และ นางลัษมณ อรรถาพิช ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ร่วมลงนามหลักการเบื้องต้น (MOU)
นายเอกนิติ กล่าวว่า หนี้ครัวเรือน ถือเป็นหนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย และหากปล่อยให้หนี้ครัวเรือนสูงมาก และไม่เร่งแก้ไข จะมีปัญหาต่อเนื่องถึงฐานะการเงินของครัวเรือนไทย ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่สามารถฟื้นได้ โดยโครงการนี้เป็นเสาที่ 2 ของมาตรการ "Big Quick Win" ที่ต้องการแก้ไขหนี้ครัวเรือน และขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือผลักดันโครงการหนี้ออกมาไดน 1 เดือน เพราะสิ่งสำคัญจะไม่ได้ช่วยแค่ฐานะการเงินของคนไทยเท่านั้น แต่ยังได้ช่วยชีวิตคนให้กลับมาดำเนินชีวิตได้
พร้อมระบุว่า เราไม่ได้จะเอาหนี้ออกมาบริหารที่ AMC เท่านั้น แต่ต้องการต่อลมหายใจให้ลูกหนให้มีโอกาสกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยการลดดอกเบี้ย ยืดเวลาให้เขามีเวลาหายใจ และมีโอกาสกลับมาเป็นคนดี ซึ่งเรื่องนี้เครดิต บูโร จะช่วยเปิดทางให้เข้ากลับเข้าสู่การขอสินเชื่อใหม่ได้ เป็นการช่วยให้ชีวิตเขาให้ไปต่อได้ ซึ่งไม่ได้ดีขึ้นแค่ลูกหนี้ แต่ครอบครัวเขาด้วย โดยหลังการทำ MOU ในวันนี้จะต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติมอีก เพื่อที่จะช่วยชีวิตลูกหนี้ได้อย่างแท้จริง
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า โครงการนี้เราเลือกกลุ่มลูกหนี้ีที่มีปัญหามาก และเป็นรายย่อยก่อน ซึ่งจะช่วยได้ทั้งระบบเศรษฐกิจและช่วยคนด้วย สอดคล้องกับนโยบาย ธปท.ที่นอกเหนือจะแก้ไขปัญหาในภาพรวมจะลงไปเข้าแก้ปัญหาในรายจุดเพื่อให้คนไทยกินดีอยู่ดีได้ กลุ่มเป้าหมาย คือ ลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( NPLs) กับทุกประเภทสินเชื่อทุกผู้ให้บริการทางการเงิน รวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย โดยต้องเป็นหนี้เสีย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568 โดยจะเป็นลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธนาคารพาณิชยก่อน 1.6 ล้านบัญชี จำนวนลูกหนี้ 1.2 ล้านราย ภาระหนี้ 43,600 ล้านบาท ซึ่งหากมองตัวเลขอาจจะไม่สูงมาก แตคิด่เป็นสัดส่วนจะสูงถึง 64% ของเอ็นพีแอลทั้งหมด โดย SAM จะรับซื้อหนี้เพื่อนำมาปรับโครงสร้างหนี้
ทั้งนี้ ธปท.จะปรับให้ SAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม (social AMC) ช่วยแก้หนี้ให้ประชาชนโดยไม่มุ่งหากำไร ลูกหนี้จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนมากกว่าปกติิ เช่น ยกเว้นดอกเบี้ยคงค้างและค่าธรรมเนียม ลดยอดเงินต้นบางส่วน ทำให้ลูกหนี้กลับมาจ่ายชำระและปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น รวมทั้งกลับมามีประวัติเครดิตบูโรที่ดีขึ้น โดยจะมี 2 ทางเลือกคือ จ่ายปิดจบ จ่ายชำระหนี้บางส่วนเพื่อปิดจบหนี้ในทันที และ 2. หากไม่ไหวให้ผ่อนชำระหนี้สูงสุด3 ปี และได้ยกเว้นดอกเบี้ยระหว่างเข้าร่วมมาตรการ โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้ปิดจบหนี้ได้ประมาณ 30-50%
การเริ่มโครงการนั้น จะเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2569 จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์หนี้ไปยัง SAM และตั้งแต่ กุมภาพันธุ์ 2569 SAM จะติดต่อกลับลูกหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อตกลงกันได้ ช่วงแรกจะผ่อนหนี้ผ่านเจ้าหนี้เดิมก่อนระยะหนึ่ง จากนั้นเริ่มส่งหนี้ที่ SAM โดยตรง และหากลูกหนี้สามารถปิดจบ หรือผ่อนตามเงื่อนไขก็จะได้รับการปรับประวัติใหม่จากเครดิต บูโร เป็นลูกหนี้ปกติโดยไม่ต้องรอ 3 ปี ส่วนลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) จะได้รับการช่วยเหลือผ่านการขายและโอนหนี้ให้กับบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (Ari-AMC) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนอีก 330,000 บัญชี ทำให้เมื่อรวมทั้งสิ้นจะช่วยเหลือลูกหนได้ถึง 1.9 ล้านบัญชี
เช็คที่นี่ รายละเอียด : โครงการ "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้"
วัตถุประสงค์ของโครงการ
เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้เฉพาะจุด คือ ลูกหนี้รายย่อยที่เหลือยอดหนี้เสีย (NPL) ไม่สูง ให้กลับมาจ่ายหนี้ได้ หลุดจากสถานะ NPL ได้เร็ว และมีประวัติหนี้ที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ในอนาคต
เพื่อช่วยเหลือเป็นการเฉพาะกิจ โดยจะดำเนินการเพียงครั้งเดียว เพื่อไม่สร้างแรงจูงใจที่ผิด จนทำให้ลูกหนี้เสียวินัยทางการเงิน (moral hazard) รวมทั้งมีแนวทางจูงใจให้ลูกหนี้กลับมาชำระหนี้และรักษาวินัยในการชำระหนี้
กำหนดการโครงการ
เริ่มโครงการตั้งแต่เดือน ม.ค. 2569 เป็นต้นไป
1 ม.ค. 2569 ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ โอนกรรมสิทธิ์หนี้ไปยัง SAM
5 ม.ค. 2569 ลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ และบริษัทในกลุ่มของธนาคารพาณิชย์ ที่สนใจปรับโครงสร้างหนี้กับโครงการนี้ สามารถติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ หรือสอบถามผ่านช่องทาง ธปท. และ SAM
ตั้งแต่ ก.พ. 2569 SAM หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก SAM ติดต่อกลับลูกหนี้
มาตรการและรูปแบบการช่วยเหลือลูกหนี้
บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) จะรับซื้อรับโอนหนี้เสียของลูกหนี้รายย่อยมาจากเจ้าหนี้เดิม และจะปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนเพื่อลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้
โดยในระยะแรก SAM จะรับซื้อเฉพาะหนี้ NPL ที่ไม่มีหลักประกัน (เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล) และติ่งหนี้ของหนี้ที่เคยมีหลักประกัน
ไม่รวมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อ nano finance ที่มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน เนื่องจากถือเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน
เงื่อนไขโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้”
มีระยะเวลา 3 ปี ประกอบด้วย 2 มาตรการย่อย ได้แก่
1. มาตรการ "จ่ายปิดจบ"
ให้ลูกหนี้เข้ามาจ่ายคืนหนี้บางส่วนแก่ SAM เพื่อปิดบัญชี
2. มาตรการ "ผ่อนชำระเป็นงวด"
• ลดภาระหนี้บางส่วนให้กับลูกหนี้ และส่วนที่เหลือให้ผ่อนชำระเป็นงวดแก่ SAM
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 3 ปี (ระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้แต่ละรายจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ลูกหนี้เริ่มเข้าโครงการ ถ้าเข้าร่วมช้า ระยะเวลาผ่อนจะเหลือน้อยลงตามระยะเวลาที่เหลือของโครงการ)
• อัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นระหว่างเข้าร่วมโครงการจะพักแขวนไว้ หากลูกหนี้ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขจะยกเว้นดอกเบี้ยทั้งจำนวน
กลุ่มเป้าหมายในระยะแรก ประกอบด้วย ลูกหนี้ที่อยู่กับธนาคารพาณิชย์และลูกหนี้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ซึ่งจะถูกรับโอนซื้อหนี้และช่วยเหลือต่อโดย SAM
คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้”
ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกคน โดยลูกหนี้ต้องมีคุณสมบัติครบทุกข้อ ดังนี้
(1) เป็นลูกหนี้บุคคลธรรมดา
(2) สถานะหนี้ ณ 30 ก.ย. 2568 เป็นหนี้ที่ค้างชำระต้นเงินหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน (NPL)
(3) มีภาระหนี้ NPL รวมทุกผู้ให้บริการทางการเงิน และทุกประเภทสินเชื่อ ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย*
*นับเฉพาะผู้ให้บริการทางการเงินที่รายงานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) และใช้ภาระหนี้ตามการรายงาน NCB
ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ
(1) ได้ลดภาระหนี้ และเงื่อนไขการผ่อนชำระแบบผ่อนปรน จึงช่วยให้ลูกหนี้เสียสามารถกลับมาเป็นลูกหนี้ดีได้ง่ายขึ้น
(2) ประวัติชำระหนี้ในเครดิตบูโร (NCB) ปรับดีขึ้น
(3) มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้เร็วขึ้น
รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ
(1) ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการทุกราย จะถูกโอนขายหนี้ให้ SAM ตั้งแต่ต้นเดือน 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป
(2) เจ้าหนี้เดิม และ SAM จะส่งหนังสือแจ้งการโอนสิทธิ์เรียกร้องให้กับลูกหนี้ทุกรายที่ถูกโอนหนี้ไปยัง SAM
(3) ลูกหนี้จะได้รับการติดต่อจาก SAM หรือคนที่ SAM มอบหมาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามโครงการต่อไป
ทั้งนี้ หากลูกหนี้มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขโครงการแต่ไม่ได้รับจดหมายดังกล่าว และมีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ หรือสอบถามผ่านช่องทาง ธปท. หรือ SAM ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป ซึ่ง SAM (หรือคนที่ SAM มอบหมาย) จะติดต่อกลับหากลูกหนี้มีสิทธิ์ตามเงื่อนไข
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
