‘ศักดิ์สยาม’ ปล่อยขบวนแท็กซี่ ติดฉากกั้นห้องโดยสารกันโควิด คาดนำร่องครบ 3,000 คัน ภายใน ต.ค.นี้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 กันยายน ที่กรมการขนส่งทางบก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ปล่อยขบวนรถแท็กซี่ติดฉากกั้นแบบ New Normal” ภายใต้โครงการยกระดับความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้บริการรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ ผู้บริหารกระทรวงฯ ผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก ผู้บริหาร เอสซีจี เคมิคอลส์ และผู้ขับรถแท็กซี่ ร่วมในพิธีปล่อยขบวนรถแท็กซี่ ที่ติดตั้งฉากกั้นอะคริลิกใสภายในห้องโดยสาร พร้อมออกให้บริการประชาชนในอัตราค่าโดยสารปกติ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางด้วยรถแท็กซี่ให้แก่ประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด ทุกภาคธุรกิจต้องปรับตัวตามมาตราการสาธารณสุขเพื่อป่องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถแท็กซี่ซึ่งเป็นการขนส่งสาธารณะที่ผู้ขับรถและผู้โดยสารอยู่ในพื้นที่ใกล้กัน ส่งกระทบต่อผู้ประกอบการ เจ้าของรถ และผู้ขับรถแท็กซี่ เนื่องจากประชาชนขาดความมั่นใจจากประเด็นปัญหาต่างๆ เหล่านี้ จึงต้องคิดนวัตกรรมมาช่วยเหลือเยียวยาและปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะในยุคนิวนอร์มอล รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมพิจารณามาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้ขับรถแท็กซี่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยมีกรมการขนส่งทางบกสนองรับนโยบายดังกล่าวและดำเนินการโครงการยกระดับความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้บริการรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน โดยทำการติดตั้งฉากกั้นระหว่างผู้ขับรถและผู้โดยสาร เพื่อป้องกันละอองฝอยจากการพูดคุย ไอ จาม ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการใช้บริการรถสาธารณะอีกด้วย
ทั้งนี้ ในระยะแรกจะนำร่องติดตั้งฉากกั้นในรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 3,000 คัน ประกอบด้วย รถแท็กซี่นิติบุคคลจากสมาคม สหกรณ์ต่างๆ และรถแท็กซี่บุคคลธรรมดา เชื่อว่าการติดตั้งฉากกั้นตามโครงการดังกล่าว นอกจากลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างผู้ขับรถและคนโดยสารภายในรถแท็กซี่แล้ว ยังช่วยให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้ขับรถหรือคนโดยสารรถแท็กซี่ เสริมสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการใช้บริการรถสาธารณะ ลดการใช้รถส่วนตัว ผู้ขับรถแท็กซี่ก็สามารถประกอบอาชีพได้ภายใต้มาตรการ Social distancing แบบ New normal รองรับการเปิดประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจภาพรวมต่อไป
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า โครงการนี้ กรมการขนส่งทางบกได้รับความร่วมมือจาก เอสซีจี เคมิคอลส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ครบวงจรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยได้นำความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์มาผลิตและออกแบบฉากกั้นอะคริลิกใสคุณภาพสูงภายในห้องโดยสาร ซึ่งออกแบบให้ติดตั้งได้ง่ายเหมาะกับรถแท็กซี่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งรถแท็กซี่ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ไม่บดบังทัศนวิสัย และไม่กระทบต่อการทำงานหรือการใช้งานระบบหรืออุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ ของรถ โดยเริ่มทยอยติดตั้งฉากกั้นให้กับรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งครบทั้งหมด 3,000 คัน ภายในเดือนตุลาคม 2564 นี้ รถที่ติดตั้งฉากกั้นจะแสดงเครื่องหมายบริเวณกระจกด้านหน้ารถเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ในอัตราค่าโดยสารเท่ากับแท็กซี่ทั่วไป และกรมการขนส่งทางบกจะติดตามประเมินผลความพึงพอใจของผู้โดยสารที่ใช้บริการผ่าน QR Code ที่ติดไว้ที่ฉากกั้นในรถแท็กซี่ทุกคัน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาขยายผลต่อไป
ด้าน นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ กล่าวว่า “เอสซีจี เคมิคอลส์ เข้าใจในสถานการณ์ความยากลำบากของผู้ประกอบการแท็กซี่ รวมทั้งมีความห่วงใยต่อสุขอนามัยของผู้ขับรถ และประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งการเว้นระยะห่างระหว่างผู้ขับรถและผู้โดยสารกลายเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องหาทางออกเพื่อยกระดับความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้รถโดยสารสาธารณะ โดยเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้นำนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านอะคริลิกใสจากแบรนด์ชินโคไลท์ (SHINKOLITE) มาพัฒนาต่อยอดจนได้ฉากกั้นอะคริลิกใสคุณภาพสูงสำหรับติดตั้งภายในห้องโดยสารรถยนต์ และได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก จัดทำฉากกั้นเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างผู้ขับรถและผู้โดยสารสำหรับรถแท็กซี่ ช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสละอองฝอยภายในห้องโดยสาร ซึ่งถือเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่ง หรือที่เรียกว่า Double Protection ซึ่งโดยปกติทั้งผู้ขับรถและผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองอยู่แล้ว เชื่อมั่นว่าโครงการยกระดับความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้บริการรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนของกรมการขนส่งทางบกในครั้งนี้ จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการเดินทางในยุค New Normal และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดประเทศของภาครัฐในอนาคต
สำหรับฉากกั้นอะคริลิกใสคุณภาพสูงในห้องโดยสารที่ติดตั้งให้กับรถแท็กซี่ในโครงการฯ มีจุดเด่นที่ความใสคล้ายกระจกทำให้คงทัศนียภาพการมองเห็น ไม่รู้สึกอึดอัดขณะโดยสาร ออกแบบให้รองรับการใช้งานในรถยนต์หลายรุ่น น้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่าย ปลอดภัย คงทนต่อสภาพอากาศ และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายด้วยผ้าขนอ่อน ชุบน้ำเปล่า น้ำสบู่ หรือแอลกอฮอล์เข้มข้น 70% สามารถทำความสะอาดได้บ่อยตามต้องการ