รีเซต

ผลักดันงบอาหารกลางวัน 2,955 ล้าน เปลี่ยนชีวิตเด็ก 575,983 คน

ผลักดันงบอาหารกลางวัน 2,955 ล้าน เปลี่ยนชีวิตเด็ก 575,983 คน
TNN ช่อง16
20 สิงหาคม 2567 ( 11:28 )
13
ผลักดันงบอาหารกลางวัน 2,955 ล้าน เปลี่ยนชีวิตเด็ก 575,983 คน

หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอาหารกลางวันในโรงเรียนขยายโอกาส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แสดงความเห็นชอบและพร้อมผลักดันแนวทางการบริโภคที่เหมาะสมตามหลักโภชนาการ พร้อมทั้งลดการบริโภคอาหารที่มีรสหวาน มัน และเค็มจัด



มติ ครม. เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ได้อนุมัติงบประมาณ 2,955 ล้านบาท สำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทั่วประเทศ 7,344 แห่ง ครอบคลุมนักเรียนกว่า 575,983 คน โดยเพิ่มอัตราค่าอาหารจาก 24 บาทต่อคนต่อวัน เป็นสูงสุด 36 บาท ซึ่งจะมีผลในปีงบประมาณ 2568



ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สสส. กล่าวถึงความสำคัญของอาหารกลางวันในโรงเรียนที่มีต่อโภชนาการของเด็กไทย โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัยและวัยเรียน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบถ้วนเพื่อการพัฒนาสมอง ระบบประสาท และอวัยวะต่างๆ 


ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขปี 2567 แสดงให้เห็นว่า เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี ยังมีปัญหาภาวะเตี้ย ผอม และอ้วน ในอัตราที่สูงกว่าเป้าหมายระดับชาติที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ เด็กวัยเรียนอายุ 6-14 ปี ยังมีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนในอัตราที่น่าเป็นห่วง


สสส. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอนามัย และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการขับเคลื่อนการจัดการอาหารกลางวันในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนให้มีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายให้เด็กได้รับอาหารครบ 5 หมู่ ลดการบริโภคน้ำตาลและเกลือ และจัดอาหารว่างไม่เกิน 2 มื้อต่อวัน


นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ในโรงเรียนและชุมชน เพื่อให้นักเรียนได้บริโภคอาหารปลอดภัย สนับสนุนการใช้โปรแกรม Thai School Lunch ในการวางแผนเมนูอาหาร และจัดอบรมบุคลากรให้เป็นนักโภชนาการประจำโรงเรียน


ธนา ยันตรโกวิท ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเสนอให้มีการทบทวนนโยบายค่าอาหารกลางวัน จัดทำข้อมูลจำนวนนักเรียนแบบเรียลไทม์ และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างอย่างโปร่งใส


การดำเนินการเหล่านี้มุ่งหวังให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพและการเรียนรู้ของเด็ก ปลูกฝังพฤติกรรมการบริโภคที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของระบบสาธารณสุขในอนาคต การลงทุนในโครงการอาหารกลางวันจึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่ออนาคตของประเทศชาติ


ภาพ สสส.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง