รีเซต

ความลับใน “หอยแมลงภู่” ชี้วิกฤตไมโครพลาสติกลุกลามทั่วโลก

ความลับใน “หอยแมลงภู่” ชี้วิกฤตไมโครพลาสติกลุกลามทั่วโลก
TNN ช่อง16
20 พฤศจิกายน 2568 ( 12:03 )
4

มนุษย์กำลังกินและสูดดมไมโครพลาสติกมากขึ้นกว่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ จากมีผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell พบว่าการบริโภคไมโครพลาสติกเพิ่มขึ้นหกเท่าทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 1990 

จากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก 109 ประเทศ นักวิจัยพบว่าการกระจายตัวของปริมาณไมโครพลาสติกที่บริโภคทั่วโลกมีความไม่เท่าเทียมกัน ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราการบริโภคสูงที่สุด โดยบางพื้นที่มีปริมาณสูงกว่าปี 1990 ถึง 50 เท่า

อินโดนีเซียมีการบริโภคไมโครพลาสติกในอาหารมากที่สุดในโลก โดยอยู่ที่ 15 กรัมต่อเดือน มาเลเซียอยู่อันดับสองที่ 12 กรัมต่อเดือน ขณะที่เวียดนามและฟิลิปปินส์มีการบริโภคไมโครพลาสติก 11 กรัมต่อคนต่อเดือน นักวิจัยระบุว่าการบริโภคไมโครพลาสติกในปริมาณสูงในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นผลมาจากการบริโภคอาหารทะเลที่ สิ่งมีชีวิตในทะเลมักเข้าใจผิดว่าพลาสติกเป็นอาหาร ซึ่งต่อมาพลาสติกจะสะสมในร่างกายของเรานั่นเอง


ไม่เพียงแต่ฝั่งเอเชียฝั่งยุโรปอย่างภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนก็เผชิญปัญหาไมโครพลาสติกปนเปื้อนในทะเลเช่นกัน ล่าสุดที่กรีซ ได้ทดลองนำหอยแมลงภู่ ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีพฤติกรรมกรองอาหารจากน้ำทะเลโดยตรง จึงดูดซับสารปนเปื้อนต่าง ๆ เข้าไปในเนื้อเยื่อ ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก สารเคมี หรือแม้แต่เศษพลาสติกขนาดเล็กที่ตาเปล่ามองไม่เห็น นักวิจัยจากศูนย์วิจัยทางทะเลแห่งเฮลเลนิก (Hellenic Centre for Marine Research – HCMR) จึงใช้หอยเหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจวัดคุณภาพน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ในแต่ละปี นักวิจัยจะนำหอยแมลงภู่ไปบรรจุในกรงเหล็กแล้วนำไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ  หลังจากผ่านไปหลายเดือน พวกเขาจะเก็บตัวอย่างขึ้นมาวิเคราะห์ พบว่าแทบทุกตัวอย่างมีอนุภาคไมโครพลาสติกสะสมอยู่ในปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดิม เศษพลาสติกที่พบมีหลายรูปแบบ ทั้งเส้นใย ฟิล์ม เศษเม็ดเล็ก และส่วนใหญ่มีสีฟ้าหรือโปร่งแสง ซึ่งบ่งบอกได้ชัดว่าแหล่งกำเนิดมาจากขวดน้ำ ถุงขยะ และบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่มนุษย์ปล่อยลงทะเลโดยไม่รู้ตัว เมื่อพลาสติกเหล่านี้ลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลานาน คลื่น แสงแดด และกระแสน้ำจะย่อยสลายมันให้กลายเป็นชิ้นเล็กลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นไมโครพลาสติกที่ยากจะมองเห็นหรือกำจัดออกจากระบบนิเวศได้

สิ่งที่น่าห่วงไปกว่านั้นคือ หอยแมลงภู่เหล่านี้เป็นสัตว์ที่มนุษย์บริโภคกันอย่างแพร่หลาย การที่มันมีไมโครพลาสติกสะสมในร่างกายจึงอาจหมายถึงว่า เศษพลาสติกกำลังย้อนกลับมาสู่ร่างกายของเราด้วยเช่นกัน แม้ในปัจจุบันระดับการปนเปื้อนยังไม่สูงจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยตรง แต่นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า หากไม่มีการควบคุมการใช้และการทิ้งพลาสติกอย่างเหมาะสม ปริมาณไมโครพลาสติกในสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารในระยะยาว

งานวิจัยของกรีซจึงไม่เพียงเป็นการตรวจสุขภาพของทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นเสียงเตือนสำคัญจากธรรมชาติ ว่าการกระทำเล็ก ๆ ของมนุษย์กำลังสร้างผลกระทบใหญ่ที่อาจย้อนกลับมาทำร้ายเราในที่สุด และดูเหมือนว่าปัญหาไมโครพลาสติกนั้นกำลังลุกลาม ขยายวงกว้างไปทั่วโลก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง