RBF ลูกค้าออเดอร์แน่น เดินเครื่องรง.เวียดนาม
ทันหุ้น – RBF มองภาพรวมไตรมาส 4/2563 ดีต่อเนื่อง ลูกค้าเก่าและใหม่เรียงคิวส่งออเดอร์แน่น เดินเครื่องโรงงานผลิตเกล้ดขนมปังในเวียดนามแล้ว ชูธุรกิจโรงแรมพีครับอานิสงส์มาตรการท่องเที่ยว มั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้เข้าเป้า 10-12% แย้มอยู่ระหว่างวางแผนงานปี 2564 คาดได้ข้อสรุปภายในเดือนธันวาคมนี้
นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า ปัจุจบันบริษัยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่ส่งคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) รวมถึงวางแผนเพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพเพื่อให้สอดรับกับเทรนการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน ทำให้คาดว่าจะช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้และในอนาคต
*เดินเครื่องรง.เวียดนาม
ด้านตลาดส่งออกยังคงมียอดขายที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย แต่บางประเทศก็อาจจะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์บ้าง เช่นในเมียนมา แต่ไม่ได้เป็นตลาดหลักของบริษัททำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งโดยรวมเชื่อว่าสถานการณ์จะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทได้มีการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โรงงานผลิตเกล็ดขนมปังในประเทศเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเดินเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายในช่วงไตรมาส 1-2/2564 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2563จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-12% จากปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,881.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 352.78 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,345.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 397.26 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนงานและประเมินการใช้งบประมาณในการลงทุนรองรับปี 2564 อยู่ เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในเดือนธันวาคม 2564นี้
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมแม้ว่าในช่วงต้นของการระบาดไวรัสโควิด-19 จะค่อนข้างกดดันผลการดำเนินงาน แต่หลังจากที่ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้ในปัจจุบันบริษัทได้กลับมาเปิดให้บริการแล้วทั้ง 2แห่ง ประกอบด้วยโรงแรมโนโวเทล จังหวัดชุมพร และโรงแรมไอบิสสไตล์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโรงแรมทั้ง 2 แห่งได้เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้แนวโน้มการเข้าพักนักท่องเที่ยวในประเทศดีขึ้นต่อเนื่อง
*เชียร์ซื้อเป้า 12 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดโมเมนตัมกำไรจะเด่นยิ่งขึ้น พร้อมทำ All Time High ในไตรมาส 4/2563หนุนโดย 1.รายได้กลุ่มลูกค้าเครื่องดื่มสุขภาพคาดเร่งตัวขึ้นได้ต่อจากไตรมาสก่อนหน้า ด้วยลูกค้ามีการเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจะเริ่มเห็นการทำการตลาด Aggressive เพิ่มยอดขาย
2.อานิสงส์ทางอ้อมของมาตรการภาครัฐเข้ามาช่วยภาคการบริโภคในกลุ่มอาหาร 3.ในต่างประเทศคาด COVID-19 กระทบจำกัด โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ใน MT ได้รับผลกระทบไม่มาก และยอดขายต่างประเทศโดยรวมยังโตด้วยเลข 2 หลัก และ 4) คาดเริ่มเห็นการประหยัดต้นทุนในโรงงานที่อินโดฯ หลังกำลังการผลิตขึ้นมากกว่า 70%
ทั้งนี้จากกำไรไตรมาส 3/2563 ที่บริษัทรายงานกำไรปกติอยู่ที่ 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 38% จากไตรมาสก่อน ซึ่งดีกว่าที่คาด 12% ทำให้กำไร 9 เดือน 2563 นี้ คิดเป็น 80% ของประมาณการกำไรทั้งปี ประกอบกับ Outlook ไตรมาส 4/2563 ที่จะเป็น ATH ทำให้ประมาณการเดิมของทางฝ่ายมี Upside
ดังนั้นจึงปรับกำไรปี 2563-64 ขึ้น 7% และ 3% ตามลำดับ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2564 จาก 11.5 บาท เป็น 12.0 บาท โดยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีมุมมองบวก จากภาพการโดนผลกระทบ COVID-19 จำกัด, ฟื้นตัวได้เด่นกว่าคาด และระยะกลาง-ยาวโตได้ต่อกับเทรนด์สุขภาพและการขยายตลาดต่างประเทศ
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1