รอลุ้น 4 ธันวาคม! “ต้มยำกุ้ง-เคบายา” ขึ้นทะเบียน มรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ยูเนสโก
นางสาว สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่าในเวทีประชุมองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จะมีการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล เพื่อสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 ในวันที่ 3 ธันวาคม ณ นครอซุนซิออน ประเทศปารากวัย หรือตรงวันที่ 4 ธันวาคมของไทย จะมีการพิจารณา และลงมติรับรองการเสนอขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ และเชื่อมั่นว่า รายการที่ประเทศไทยเสนอ คือ ต้มยำกุ้ง ของไทย และเคบายา (Kebaya) จะได้รับการรับรองให้ ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567
ที่ผ่านมาประเทศไทย มีรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากยูเนสโกแล้ว 4 รายการ ได้แก่ โขน นวดไทย โนรา และประเพณีสงกรานต์ของไทย
โดยต้มยำกุ้งถือเป็นรายการที่ 5 ของไทย ที่ได้รับการรับรอง ในส่วนเคบายา เป็นรายการที่เสนอร่วม 5 ประเทศ คือ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย
"เคบายา" เป็นวัฒนธรรมการแต่งกายของสตรี ที่มีความประณีต งดงาม สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และประเพณีที่มีร่วมกันของผู้คน และเชื่อมโยงชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีส่วนในการสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม จึงขอเชิญประชาชนร่วมกิจกรรมงานฉลองต้มยำกุ้งและเคบายา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ช่วงวันที่ 6-8 ธันวาคมนี้
สำหรับต้มยำกุ้ง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเสนอ "ต้มยำกุ้ง" ภายใต้ชื่อ Tomyum Kung ส่งขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก เนื่องจากเข้าเกณฑ์ด้านคุณค่าและความสำคัญ ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนเกษตรกรรม ริมแม่น้ำลำคลองในภาคกลางของไทย ที่มีวัฒนธรรมการบริโภคอาหารผ่านการสังเกตและเรียนรู้จากธรรมชาติ
โดยนำกุ้งที่มีมากมายในท้องถิ่นมาต้มในน้ำเดือดที่มีสมุนไพรทั้งข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และมะนาว ซึ่งนิยมปลูกไว้กินเองในครอบครัว ต้มยำกุ้งจึงสะท้อนถึงความเรียบง่ายและวิถีชีวิตที่พึ่งพิงธรรมชาติ พึ่งพาตนเองและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ