อีลอน มัสก์ อัปเดตโครงการ Starship ก้าวสู่อนาคตแห่งมนุษยชาติในอวกาศ

อีลอน มัสก์ อัปเดตโครงการ Starship ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ก่อนการทดสอบยาน Starship เที่ยวบินที่ 10 ที่ผ่านมา โดยการอัปเดตใข้อมูลในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาระบบขนส่งอวกาศธรรมดา แต่คือ รากฐานของวิสัยทัศน์ยิ่งใหญ่ ที่ต้องการผลักดันให้มนุษย์ก้าวสู่การเป็นเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ได้หลายดวงดาว สร้างความหวังใหม่และอนาคตที่น่าตื่นเต้นเกินกว่าจะจินตนาการ

วิสัยทัศน์และเป้าหมายสูงสุด

อีลอน มัสก์ เปิดเผยว่าการเอาชีวิตรอดของมนุษยชาติ เป้าหมาย คือ การทำให้มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตหลายดวงดาว และท้ายที่สุดคือการเป็นสิ่งมีชีวิตข้ามดวงดาว เพื่อเพิ่มโอกาสรอดพ้นจากหายนะ และขยายขอบเขตของจิตสำนึกออกไปนอกโลก

นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ชีวิตไม่ควรมีเพียงการแก้ปัญหา แต่ควรมีเหตุผลที่ทำให้ตื่นเต้นกับอนาคต การก้าวสู่ความเป็นอารยธรรมอวกาศคือความฝันที่ยิ่งใหญ่

และเป้าหมายสูงสุด คือ การสร้างเมืองที่พึ่งพาตนเองได้บนดาวอังคาร เมืองนี้ต้องอยู่รอดได้แม้ไม่มีการส่งเสบียงจากโลก ไม่ว่าจะเพราะภัยพิบัติหรือการล่มสลายของอารยธรรมโลก การจะทำเช่นนั้นได้ต้องส่งมวลสารมหาศาลอย่างน้อยหนึ่งล้านตันไปยังดาวอังคาร พร้อมสร้างฐานอุตสาหกรรมที่ครบวงจร ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ระบบดาวอื่น ๆ และอาจพบเจออารยธรรมต่างดาว

โรงงานสร้างยาน Starship ทันสมัย

SpaceX สร้างโรงงานผลิตจรวดที่ทันสมัยที่สุด จนมัสก์เรียกว่าเป็น “เทคโนโลยีระดับต่างดาว” โรงงานตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำริโอแกรนด์ (Rio Grande) และชายหาด ซึ่งเดิมเป็นเพียงสันทรายต่ำเหนือระดับน้ำทะเลราว 1 เมตร

ย้อนไปในปี พ.ศ. 2562 ที่โรงงานเริ่มด้วยรถพ่วงและเต็นท์สำหรับสร้างต้นแบบ Star Hopper ปัจจุบันได้กลายเป็นโรงงานขนาดหนึ่งล้านตารางฟุต พร้อมหอปล่อยจรวดสองแห่ง และกำลังสร้าง “Gigabay” ที่อาจเป็นหนึ่งในอาคารปิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หัวใจของโรงงานสร้างยาน Starship คือ การผลิตจำนวนมาก โดยมีเป้าหมายสร้าง Starship หลายพันลำต่อปี ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเมืองอวกาศบนดาวอังคาร

Starship vehicle summary เครดิต SpaceX

การออกแบบและเทคโนโลยีหลักของ Starship

ยานอวกาศ Starship คือ ยานอวกาศขนาดใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างขึ้น ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานซ้ำและการเดินทางไกลในอวกาศ โครงสร้างหลักทำจากสเตนเลสสตีลอัลลอยด์พิเศษที่มีความแข็งแรง ทนความร้อนสูง และไม่จำเป็นต้องทาสี 

ซึ่งการเลือกรูปแบบไม่ทาสีดังกล่าวเหมาะกับการเผชิญกับอุณหภูมิที่รุนแรงระหว่างการขึ้นลงจากวงโคจร และการเดินทางระหว่างดวงดาว นอกจากนี้ ครึ่งล่างของตัวยานอวกาศ Starship ยังถูกติดตั้งแผ่นกันความร้อนสีดำ เพื่อป้องกันการเผาไหม้รุนแรงในช่วงเข้าสู่บรรยากาศโลก

โดยหัวใจสำคัญของระบบขับเคลื่อนคือเครื่องยนต์ Raptor ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์จรวดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ Starship ไม่เพียงเป็นยานขนส่ง แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการเปิดทางสู่การตั้งถิ่นฐานถาวรของมนุษย์นอกโลก และเป็นรากฐานสำหรับการเดินทางไปยังดวงจันทร์ ดาวอังคาร และไกลกว่านั้นในอนาคต

การนำยานอวกาศและจรวดกลับมาใช้ใหม่ได้เต็มรูปแบบ

SpaceX วางเป้าหมายให้ Starship เป็นยานอวกาศที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของบูสเตอร์และตัวยานหลัก โดยเลือกใช้แขนของหอคอยปล่อยจรวดในการจับยาน แทนการติดตั้งขาลงจอด วิธีนี้ช่วยลดมวลของจรวดและประหยัดเวลา 

เป้าหมายระยะยาวคือสามารถนำบูสเตอร์กลับมาใช้ใหม่ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง และให้ยาน Starship พร้อมบินซ้ำได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการลงจอด

ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือระบบแผ่นกันความร้อน อีลอน มัสก์ ชี้ว่าไม่เคยมีใครสร้างแผ่นกันความร้อนที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อย่างสมบูรณ์ในวงโคจรมาก่อน ต่างจากกระสวยอวกาศที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการซ่อมแซม 

แต่สำหรับ Starship จะสามารถกลับมาบินซ้ำได้ทันที สำหรับการลงจอดบนดาวอังคารครั้งแรก ยานยังคงใช้ขาตั้งกางออกที่ผ่านการทดสอบแล้ว เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยและความเสถียรของภารกิจ

การเติมเชื้อเพลิงในวงโคจร

หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญของยาน Starship คือ การเติมเชื้อเพลิงในวงโคจร (On-orbit Refilling) โดยยานอวกาศ Starship จะถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรด้วยเชื้อเพลิงที่มีจำกัด จากนั้นจะมี Starship อีกลำทำหน้าที่เป็น "แทงก์เชื้อเพลิง" เพื่อถ่ายโอนเชื้อเพลิงให้ วิธีการนี้จะช่วยให้ยานอวกาศ Starship มีพลังงานเพียงพอสำหรับการเดินทางไกลไปถึงดาวอังคาร รวมถึงการลงจอดบนพื้นผิวดาวเคราะห์แดงได้สำเร็จ

อีลอน มัสก์ ยอมรับว่านี่เป็นความท้าทายครั้งใหม่ เพราะยังไม่เคยมีใครสาธิตการถ่ายโอนเชื้อเพลิงปริมาณมากในอวกาศมาก่อน แม้ว่า SpaceX จะมีประสบการณ์ในการเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติแล้วก็ตาม เทคโนโลยีนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะตัดสินว่า ยานอวกาศ Starship จะสามารถขยายขอบเขตการเดินทางของมนุษยชาติไปสู่ดาวอังคารได้จริงหรือไม่

ยานอวกาศ Starship ประโยชน์ที่มากกว่ายานอวกาศ

ยานอวกาศ Starship นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงเพื่อการเดินทางในอวกาศเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตบนโลกได้ด้วย หนึ่งในนั้นคือการเดินทางข้ามโลกแบบความเร็วสูง ที่สามารถพาผู้โดยสารไปยังทุกจุดบนโลกภายในเวลาเพียง 40 นาที เร็วกว่าเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไปถึง 30 เท่า อีกทั้งการเข้าถึงอวกาศที่สะดวกขึ้นยังเปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์สามารถสำรวจและทำความเข้าใจโลกได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ยานอวกาศ Starship ยังสะท้อนแนวคิดที่ว่า มนุษย์มีหน้าที่ในการรักษาความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิต ด้วยการนำชีวิตออกไปตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์อื่น เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติขนาดใหญ่ เช่น การชนของดาวเคราะห์น้อย หรือเหตุการณ์ที่ดวงอาทิตย์ขยายตัวและอาจกลืนโลกในอนาคต แนวทางนี้จึงไม่ใช่เพียงการสร้างยานอวกาศ แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อความอยู่รอดระยะยาวของมนุษยชาติทั้งหมด

อาจกล่าวได้ว่ายานอวกาศ Starship ไม่ใช่แค่จรวด แต่คือก้าวสำคัญของมนุษยชาติ ที่จะทำให้เรากลายเป็นเผ่าพันธุ์หลายดวงดาว มันคือความหวังในการอยู่รอด สร้างแรงบันดาลใจ และเปิดศักราชใหม่ของการเดินทางทั้งในอวกาศและบนโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งการนำกลับมาใช้ซ้ำเต็มรูปแบบและการเติมเชื้อเพลิงในวงโคจร