รีเซต

แมวมงคลโบราณ pop ขนาดไหน! มาทำความรู้จัก 5 สายพันธุ์แมวไทยกัน

แมวมงคลโบราณ pop ขนาดไหน! มาทำความรู้จัก  5 สายพันธุ์แมวไทยกัน
TeaC
17 สิงหาคม 2564 ( 14:39 )
869

ใครทาสแมวยกมือขึ้น!!! คงไม่ตกเทรนด์เล่นเกม POPCAT และ POPDOG การแข่งขันคลิกระดับโลกกันใช่ไหม? เพราะหากใครพลาดเล่นเกมดังกล่าวเดี๋ยวจะ OUT เอาได้นะ ศึกในครั้งนี้วัดกันที่ความสามัคคีของคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลกจนทำผลงานกวาดแชมป์มาได้ทั้งสองเกมเพียงชั่วข้ามคืน ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ เขาเล่นเกมนี้กันมานานนมหลายวันแล้ว เจอพี่ไทยคว้าแชมป์ใน POPCAT แค่ 21 ชั่วโมง และเกมดังกล่าวยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและต่อเนื่อง 

 

ด้วยเสน่ห์ตรงที่ใช้มีมน่ารัก ๆ ของเจ้าแมวเหมียวสุดคิ้วส์มาเป็นตัวดึงดูดให้เหล่าทาสแมวครึ่งค่อนประเทศลงร่วมศึก popcatlympics ในครั้งนี้กันอย่างแน่นอน แต่วันนี้ผู้เขียนไม่ได้จะมาชวนเล่นเกม แต่จะพาเหล่าทาสแมวทั้งหลายที่อาจจะรู้บ้าง ไม่รู้บ้างและหลงใหลในสัตว์สี่ขา หน้าตาน่ารัก ออดอ้อน มีความเป็นตัวเองอย่างมาก แต่ pop ในหมู่มนุษย์ที่อยากมีสัตว์เลี้ยงอย่าง "แมวไทย" มาให้รู้จักกันมากขึ้นว่าแมวไทยโบราณที่เขานิยมเลี้ยง เพาะพันธุ์ อนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ เพื่อให้เป็นความรู้และเข้าใจนิสัยของสายพันธุ์ หากวันหนึ่งวันใดก้าวเข้ามาเป็น "ทาสแมว" จะได้เข้าใจ รับเลี้ยง หรือรับอุปการะ เลี้ยงเจ้าแมวไทย ร้องเหมียว ๆ ได้อย่างถูกต้องกันนะ 

 

รู้จัก! "แมวไทย" ให้มากขึ้น

 

จากการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ "แมวไทย" เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย คุณสมบัติที่ทำให้แมวไทยมีเสน่ห์เฉพาะตัวนั่นคือ เรื่องอุปนิสัยที่มีความฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง (จริง ๆ นะ) รู้จักคิด รู้จักประจบ (ออดอ้อน คลอเคลียทุกนาทีจริง ๆ เมื่อมันมีโอกาส) รักบ้าน (หวงแหนอาณาเขตขั้นรุนแรง) รักเจ้าของ (ตัวติดอย่างกับปาท่องโก๋) และเหนืออื่นใด แมวไทยรักความอิสระของตัวเองเป็นชีวิตจิตใต ไม่ว่าจะกิน ดื่ม หรือจะไปไหนตามใจชอบอย่างที่ต้องการ หากเปรียบเทียบกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ เป็นคนที่เข้าใจชีวิตว่าต้องการทำสิ่งใดและทำมันอย่างที่ต้องการโดยไม่ลังเล (ใครนิสัยเหมือนแมวมารายงานตัวหน่อย)

 

และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัวของแมวไทยที่ทำให้แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่น ส่วนสีสันตามตัวของแมวไทยนั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทาสแมวทั้งหลาย หลงรักแมว รู้สึกสุขใจยามได้มอง ไม่ว่าจะเป็น แมววิเชียรมาศ แมวเก้าแต้ม แมวขาวมณีหรือขาวปลอด แมวนิลรัตน์หรือดำปลอด แมวศุภลักษณ์หรือทองแดง แมวสีสวาดหรือแมวไทยพันธุ์โคราช ต่างล้วนได้รับความสนใจ จากทั้งเจ้าของและผู้สนใจทั้งสิ้น

 

ประวัติ แมวไทย

 

ข้อมูลจาก สมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทยไว้ 23 ชนิด ซึ่งเป็นแมวดีให้คุณ 17 ชนิด และแมวร้ายให้โทษ 6 ชนิด แมวไทย (วิฬาร) ที่ยังเหลือให้พบเห็นในปัจจุบันนี้มี 6 ชนิดคือ วิเชียรมาศ สีสวาด ศุภลักษณ์ โกญจา ขาวมณี และแซมเสวตร[10] แต่แท้จริงแล้วในสมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทยว่ามีทั้งหมด 23 สายพันธุ์ แบ่งออกเป็นแมวให้คุณ 17 ชนิด และ แมวร้ายให้โทษอีก 6 ชนิด

 

ด้วยความสวยงามเฉพาะตัวนี้เองหลายคนจึงนิยมเลี้ยงสายพันธุ์ที่กล่าวข้างต้นจนถึงขั้นมีกลุ่มอนุรักษ์แมวไทยให้คงอยู่ โดยแมวไทยโบราณที่อยากให้ทาสแมวได้รู้จัก มี 5 สายพันธุ์ด้วยกัน 

 

1. แมววิเชียรมาศ Siamese Cat

 

ลักษณะเด่น : มีตาสีฟ้าสดใสเหมือนตาฝรั่ง ขนลำตัวสั้นแน่นโทนสีขาวแกมสีน้ำตาลอ่อน  มีแต้มสีเข้มที่เรียกว่า แต้มสีครั่ง (Seal Point) หรือสีน้ำตาลไหม้ รวม 9 ตำแหน่ง ได้แก่

  • ที่บริเวณหน้า
  • หูทั้งสองข้าง
  • ขาทั้งสี่ข้าง ยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
  • หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง
  • ที่อวัยวะเพศ 

 

เป็นแมวไทยที่หลายคนชื่นชอบด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนอุปนิสัยฉลาด มีความเป็นตัวเองสูงมาก ห่วงถิ่น ห่วงเจ้าของ และเป็นจ่าฝูง 

 

ประวัติ แมววิเชียรมาศ ปรากฏหลักฐานในสมุดข่อยโบราณของไทย บางตำราเรียก "แมวแก้ว" เป็นแมวไทยโบราณ มักเลี้ยงไว้ในพระราชสำนักตั้งแต่สมัยอยุธยา เพราะถือว่าเป็นแมวนำโชคลาภ ชาวบ้านธรรมดาไม่มีโอกาสได้เลี้ยง เพราะเป็นแมวไทยที่มีมูลค่าสูง และแมววิเชียรมาศมีชื่อเสียงมากในต่างประเทศ ชาวต่างชาติเรียกแมวไทยลักษณะนี้ว่า Siamese Cat

 

2. แมวสีสวาด หรือแมวโคราช (Silver Blue)

 

ลักษณะเด่น :ป็นแมวที่มีชื่อเรียกหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น แมวสีสวาด แมวโคราช แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา มีถิ่นกำเนิดที่ อ.พิมาย  จ.นครราชสีมา โดยมีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ได้แก่

 

  • มีสีขนเหมือนสีเมล็ดสวาด คล้ายสีเมฆ ตั้งแต่เกิดจนตาย
  • ศีรษะ ดูจากด้านหน้าเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน
  • หูตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่
  • ผิวหนังบริเวณจมูกและริมฝีปากเป็นสีเงินหรือสีม่วงอ่อน
  • แมวสีสวาดตัวผู้ หน้าผากมีรอยหยัก ทำให้เป็นรูปหัวใจชัดเจนมากขึ้น
  • ตามีสีเหลืองอมเขียวเปรียบประดุจข้าวกล้า ลักษณะเด่นแบบนี้จึงได้รับการคัดเลือกให้ใช้ในพิธีแห่นางแมวขอฝนในสมัยโบราณ

 

ประวัติ แมวสีสวาด หรือชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว รวมทั้งคนโบราณมีความเชื่อว่าแมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช และคนเลี้ยงทั่วไปนำมาซึ่งความสุขสวัสดิ์มงคลแก่ผู้เลี้ยง

 

 

3.  แมวศุภลักษณ์ 

 

ลักษณะเด่น : เป็นแมวที่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แมวทองแดง (Copper) โดยมีลักษณะโดดเด่นน่าหลงใหล ชวนให้หลงรัก ได้แก่

 

  • มีขนสีน้ำตาลเข้มเหมือนสีทองแดงเสมอกันทั้งตัว
  • ตามีสีเหลืองเป็นประกาย หรือสีอำพัน  
  • หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง
  • หน้า หู ปลายขา และ หาง มีสีน้ำตาลเข้มกว่าบริเวณลำตัวทั่วไป

 

ประวัติ แมวพันธุ์ศุภลักษณ์ มีสีสะดุดตาและมีความสวยงาม สมกับคำว่า "ศุภลักษณ์" ที่แปลว่า "ลักษณะที่ดี" เป็นแมวที่มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ อยากรู้อยากเห็น ชอบผจญภัย รักอิสระ ชอบสนใจสิ่งรอบตัว รวมทั้งแมวศุภลักษณ์ของไทย เป็นที่รู้กันว่า ต้นกำเนิดอยู่ที่เมืองไทย

 

 

4.  แมวโกนจา

 

ลักษณะเด่น : เป็นแมวดำ หรือมีสีดำสนิท แต่ความน่ารักไม่แพ้แมวตัวไหนแน่นอน แถมยังเป็นแมวมงคลให้คุณแก่ผู้เลี้ยงตามความเชื่อโบราณ และมีลักษณะเด่น ได้แก่ 

 

  • สีดำสนิทตลอดทั้งตัว
  • ขนสั้น เส้นเล็กละเอียดนุ่มและเรียบตรงทั้งลำตัว ไม่มีสีอื่นใดปะปนเลยแม้แต่น้อย
  • หัวกลมแต่ไม่โต
  • มีปากเรียวแหลม
  • หูตั้ง
  • ตาเป็นสีเหลืองอมเขียวหรือทองอ่อน
  • รูปร่างสะโอดสะองคล่องแคล่ว
  • หางยาว ปลายหางแหลมตรง
  • อุ้งเท้าทอดคล้ายเท้าสิงห์

 

ประวัติ แมวโกนจา หรือ "โกญจา" หรือเรียกอีกชื่อว่า "ดำมงคล" เป็นแมวมงคลตามความเชื่อโบราณ ให้คุณกับผู้เลี้ยงทั้งมีสมบัติมากมาย ช่วงส่งเสริมอำนาจวาสนา เป็นที่ชื่นชอบของเจ้านาย คิดทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ 

 

5.  แมวขาวมณี

 

ลักษณะเด่น : เป็นแมวสีตรงข้ามกับแมวโกนจา นั่นคือ เป็นแมวสีขาวล้วนสวยงาม หลายคนนิยมเลี้ยงควบคู่กับแมวดำ โดยมีลักษณะเด่นน่าหลงใหล ได้แก่

 

  • มีรูปร่างขนาดกลาง
  • ขนสีขาวสั้นแน่น อ่อนนุ่ม
  • ศีรษะคล้ายรูปหัวใจ
  • หน้าผากใหญ่แบน
  • ดวงตามีสามลักษณะด้วยกัน คือ มีตาสีฟ้าสองข้าง, ตาสีเหลืองสองข้าง และตาสองสี ข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าอีกข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง

 

ประวัติ แมวขาวมณี หรือ แมวขาวปลอด (Pure White) เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก เนื่องจากมีความเชื่องมาก เหมาะกับการเลี้ยงไว้ดูเล่น และเชื่อว่าจะคอยค้ำ-คูณและนำโชคลาภมาให้เจ้าของได้อยู่เสมอ และจากข้อมูลสันนิษฐานว่า เกิดในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์

 

และนี่คือแมวไทยโบราณ 5 สายพันธุ์ที่มีคุณค่าให้ได้ศึกษา หรือใครจะเลี้ยงก็ขอให้พร้อมทั้งทรัพย์สิน พร้อมทั้งเวลา พร้อมทั้งความรัก ไม่พร้อมไม่เลี้ยงกันนะ เพราะค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแมว 1 ตัวไม่น้อยเลยทีเดียว เลี้ยงแมวไทยทั้งทีเลี้ยงเมื่อพร้อม ไม่เดือดร้อนตัวเองและไม่เดือดร้อนสังคมด้วย

 

แต่หากใครไม่พร้อมเลี้ยงแต่อยากเลี้ยง ก็มีวิธีการง่าย ๆ เป็นพ่อแม่บุญธรรมกับมูลนิธิฯ ต่าง ๆ ด้วยการบริจาคค่าใช้จ่ายในการดูแลแมวจรที่มีชะตากรรมทั้งถูกทิ้ง ถูกโยนให้เป็นภาระของสังคมทั้งที่มีเจ้าของ หรือถูกรถชน เป็นต้น

 

pop แค่ไหน! ถ้าไม่พร้อมไม่เลี้ยงนะ 

 

ข้อมูล : วิกิพีเดีย

 

 

ข่าวเกี่ยวข้อง :

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง