รีเซต

ห้ามจับสัตว์ทะเล! อุทยานหาดนพรัตน์ฯ เตือนมีโทษหนัก ฝากผู้ปกครองสอนเด็ก หลังพบจับดาวเล่น หวั่น เจ็บ-ตาย

ห้ามจับสัตว์ทะเล! อุทยานหาดนพรัตน์ฯ เตือนมีโทษหนัก ฝากผู้ปกครองสอนเด็ก หลังพบจับดาวเล่น หวั่น เจ็บ-ตาย
ข่าวสด
8 กันยายน 2564 ( 14:04 )
112

อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ปักป้ายห้ามจับสัตว์ทะเล หลังมีกลุ่มเด็กจับดาวทะเลมากองเรียงกัน ย้ำมีความผตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 คุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท ด้านดร.ธรณ์ ฝากผู้ปกครองสอนเด็ก เตือนอย่าจับสัตว์ อย่าให้อาหารสัตว์ทุกชนิด

 

 

กรณีมีการแชร์ภาพกลุ่มบุคคลจับดาวทะเลหลากสีมากองเรียงกัน และถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานบริเวณชายหาดอ่าวทึ่ง ม.2 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นั้น

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ไม่จับดาวทะเล และสัตว์ทะเล ขึ้นมาถ่ายภาพ หรือจับน้องๆ ขึ้นมาเล่น เพราะจะทำให้สัตว์ทะเลได้รับบาดเจ็บหรือตายได้ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชม และเก็บภาพความสวยงามได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ หรือเกิดผลกระทบให้น้อยที่สุด

 

 

 

สำหรับการจับสัตว์ทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติ มีโทษตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 การคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ มาตรา 19 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ห้างมิให้บุคคลใด กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดัง (3) ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หากพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

 

 

ด้าน ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงความคิดเห็นกรณีดัง กล่าวว่า อยากฝากคุณพ่อคุณแม่คุณผู้ปกครองไว้ เวลาพาน้องๆ ไปเที่ยวทะเลเที่ยวป่าเขา น้องอยากจับสัตว์มาเล่น แต่สัตว์พวกนี้หากินตามธรรมชาติ ไปจับเขามา เขาก็หากินไม่ได้ เหมือนเรากินข้าวอยู่ จู่ๆ มีใครอุ้มเราไปไหนก็ไม่รู้ คงไม่สนุกแน่นอน

 

 

การย้ายสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยจากจุดที่กว่าจะเจออาหารสมบูรณ์ ไปอยู่ในที่ไม่มีอะไรกิน ต้องเดินต้องคืบคลานไปหาที่เดิม มันสร้างความลำบากให้สัตว์ตัวน้อยๆ ยังหมายถึงการจับของเรา อาจทำร้ายเธอไม่รู้ตัว เพราะสัตว์บางชนิดบอบบาง ธรรมชาติไม่ได้วิวัฒนาการพวกเธอมาให้คนจับ สัตว์บางชนิดอาจมีพิษมีอันตราย จับแล้วเจ็บ คงไม่บอกว่าชนิดไหนบ้าง เพราะไม่อยากให้จับสักชนิดไม่ได้หมายความแค่ดาวทะเล ยังรวมถึงตัวอื่นๆ เช่น ปูเสฉวน ปูลม

 

 

 

 

ดร.ธรณ์ ระบุอีกว่า บางทีน้องจับมาได้อยากเอามาเลี้ยง เอาขึ้นห้องคอนโดรีสอร์ทมาไว้สักคืน คิดว่าไม่เป็นอะไร สัตว์ทะเลร้องโอ๊ยไม่ได้ ร้องไห้แงๆ ก็ไม่ได้ เธอเจ็บปวดเจียนตาย เราอาจนึกว่าเธอไม่เป็นอะไร คำว่าไม่เป็นอะไรเป็นคำที่น่ากลัว เมื่อมนุษย์คิดแทนสัตว์ทะเลสัตว์ป่า เหมือนกับที่เราให้อาหารกวาง ลิงในป่า คิดว่าดี สัตว์จะได้ไม่หิว แต่สัตว์กินขนมที่ทำมาให้มนุษย์ อาจเสียสุขภาพ อาจทำให้สัตว์มารวมตัวกันตามถนน จากนั้นก็โดนรถชนตาย ซึ่งยังมีอีกมากมาย

 

 

“ทั้งหมดนี้จบง่ายๆ ด้วยความคิดว่า เราคือผู้มาเยือน เจ้าของบ้านคือสรรพสัตว์เหล่านั้น แขกมาบ้านจะไม่จับเจ้าของบ้านจากโต๊ะอาหารไปขังไว้ในห้องเก็บของ จะไม่ยัดเยียดของกินที่ทำร้ายท้องไส้ใส่ปากเจ้าของบ้าน จะไม่จับเจ้าของบ้านใส่กรงแล้วเอาไปไว้ที่อื่น”

 

 

ดร.ธรณ์ ย้ำอีกว่า นอกจากนี้การทำแบบนั้นยังอาจผิดกฎหมายในเขตอนุรักษ์ รวมทั้งสุ่มเสี่ยงการถูกประณามทางสังคม จึงต้องฝากคุณๆ ผู้ปกครอง ช่วยกันสอนน้อง ช่วยกันอธิบาย และที่สำคัญคืออย่าทำเป็นตัวอย่าง อย่าบอกลูกว่าแป๊บเดียวไม่เป็นไรหรอก การท่องเที่ยวธรรมชาติ ทำให้เรามีความสุข ผูกสัมพันธ์ความรักในครอบครัวในเพื่อนฝูง ทำให้เรารักป่ารักทะเล ความสุขที่แท้จริงจะไม่เกิดจากความทุกข์หรือความเจ็บความตายของทุกชีวิตที่อยู่อาศัยหากินในบ้านของพวกเธอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง