หมอยันจัดงานศพได้ แต่ห้ามเปิดถุงห่อร่างเด็ดขาด ชี้พระไม่ต้องใส่PPE
จากกรณี มีการแชร์ภาพพระภิกษุสงฆ์วัดแห่งหนึ่ง สวมชุด PPE ห่อผ้าเหลืองอีกชั้น เพื่อสวดศพให้กับผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด กลายเป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์
วันที่ 29 เม.ย.64 นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพระสงฆ์สวมชุด PPE ในการสวดณาปนกิจศพ ว่า ไม่มีความจำเป็น และไม่สมเหตุสมผล เพราะการบรรจุศพลงใส่โลง ถ้าเป็นศพที่เสียชีวิตจากโควิด รพ.จะ ราดน้ำยาฆ่าเชื้อ และนำสำลีชุดน้ำยาฆ่าเชื้ออุดทางรูทวาร และบรรจุใส่ซิปล็อคถึง 3 ชั้น โดยทุกชั้นต้องราดน้ำยาฆ่าเชื้อ จากนั้นจึงจะบรรจุโลง ทำให้เป็นเรื่องยากที่เชื้อจะทะลุถุง 3 ชั้นออกมานอกโลงได้
ส่วนที่ผู้เสียชีวิตได้รับเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์อังกฤษที่มีความรุนแรงนั้น ต้องทำความเข้าใจว่า ถ้าเชื้อไม่รุนแรงจะเสียชีวิตได้อย่างไร แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เชื้อจะทะลุถุงออกมาขอเพียงอย่างเดียวญาติและคนใกล้ชิดอย่าเปิดถุงซิปออกเท่านั้น การสวดอภิธรรมศพหรือทำบุญให้ผู้ตายยังทำได้ตามปกติและไม่เห็นด้วยหากจะไม่มีพิธีในการทำศพเลยและนำศพยกขึ้นเมรุนเผาทันที เพื่อให้เวลาญาติได้ทำใจ เพียงแต่อาจลดขั้นตอนในการสวดศพจาก 3 วันเหลือ 1 วันได้
นพ.ทวี กล่าวย้ำว่า การที่ไม่สวดศพเลยและนำศพขึ้นเมรุทันทีหลังเสียชีวิตออกจะไม่สมเหตุสมผลหรือเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เพราะเชื้ออยู่กับผู้ตายอยู่ภายในน้ำเหลืองไม่สามารถออกมาแพร่ออกได้ทางอากาศ ทั้งนี้ เตรียมเชิญสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาทำความเข้าใจในเรื่องนี้เพื่อให้หลักศาสนากับทาง การแพทย์สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเพราะเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อโควิดระลอกแรก
ขอย้ำว่าศพไม่ไอไม่สามารถแพร่เชื้อได้ ส่วนกรณีการเรียกเก็บเงินค่าถุงซิปล็อกที่แพงขึ้นนับหลาย 10,000 บาทเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอาจเป็นความเข้าใจผิดเพราะปกติอุปกรณ์เกี่ยวกับการป้องกันโรคทางโรงพยาบาลจะมีการเตรียมให้และในการจัดการศพที่เสียชีวิตจากโควิดจะไม่มีการฉีดฟอร์มาลีนทำให้แทบไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ