รีเซต

WICEงานขนส่ง-ค่าระวางฟื้น โบรกมองปี67กำไรเติบโต

WICEงานขนส่ง-ค่าระวางฟื้น โบรกมองปี67กำไรเติบโต
ทันหุ้น
5 พฤศจิกายน 2566 ( 22:56 )
45
WICEงานขนส่ง-ค่าระวางฟื้น โบรกมองปี67กำไรเติบโต

#WICE #ทันหุ้น – WICE เดินหน้าโครงการในมือตามแผน ครึ่งปีหลังทยอยความชัดเจนเพิ่ม ด้านภาพรวมเริ่มทยอยฟื้นตัว จีนเปิดด่านหนุนรายได้ขนส่งข้ามพรมแดน โบรกมองปี 2567 แนวโน้มกำไรกลับมาโต ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 2567 ที่ 9.35 บาท


นายชูเดช  คงสุนทร  กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE  เปิดเผยว่า บริษัทยังมีโครงการต่างๆ ที่ทยอยชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ ความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ จำกัด ที่ได้ลงนาม MOU เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา เพื่อขยายฐานลูกค้าเดิมไปยังกลุ่ม B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) รวมถึงวางแผนการจัดการคลังสินค้าแบบพร้อมส่ง (Fulfilments Canter) ให้กับลูกค้า


ขณะที่ความร่วมมือกับบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT เป็นโครงการ Green Logistics Hub โดยจะพัฒนาเป็นคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า ล่าสุดได้เข้าไปปรับปรุงและพัฒนาที่ดินของ SAT บริเวณโรงงานย่านถนนบางนา-ตราด กม.15 จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนพื้นที่จังหวัดระยอง อยู่ในขั้นตอนพูดคุยเพื่อเตรียมการก่อสร้าง รองรับการขยายธุรกิจคลังสินค้า และการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรความชัดเจนในปี 2567 เป็นต้นไป


รวมถึงโครงการที่จะนำรถบรรทุกไฟฟ้า (EV TRUCK) เข้ามาช่วยในการขนส่ง ทดแทนการใช้รถยนต์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากับพันธมิตร ขนส่งสินค้า ที่มีปริมาณขนส่งนับแสนตันต่อปี หรือราว 700-800เที่ยวต่อเดือน ซึ่งเป็นระดับคุ้มค่าที่จะลงทุนรถบรรทุกอีวี 60 คัน คาดว่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นหลังจากนี้เช่นเดียวกัน


*การขนส่งฟื้น

ทางด้านภาพรวมการขนส่งเริ่มฟื้นตัวได้ดีในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ทั้งการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) การขนส่งทางอากาศ (Air Freight) การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) ซึ่งรายได้ของบริษัทก็จะอิงไปกับปริมาณการขนส่งอยู่แล้ว พร้อมกันนี้บริษัทได้นำระบบไอทีเข้ามาช่วยบริหารงานให้แก่ลูกค้า รวมไปถึงการวิเคราะห์คลังสินค้า เพื่อเสริมการบริหารสินค้าคงคลังให้กับลูกค้าได้แบบครบวงจร


จากกรณีที่ตลาดหลักอย่างประเทศจีนมีการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ไม่มีการปิดด่าน ทำให้ขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกขึ้น เชื่อว่าจะเห็นปริมาณการขนส่งฟื้นกลับมากขึ้น ขณะที่ตลาดอเมริกาก็คาดว่าจะเติบโตได้ดีขึ้นในครึ่งปีหลังเช่นเดียวกัน สอดรับกับค่าระวางเรือที่คาดจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ตามปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น


*รายได้ขนส่งข้ามแดนโต

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST คาดว่า รายได้ขนส่งข้ามพรมแดนและซัพพลายเชนโซลูชันส์โตต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนไม่มีการปิดด่านที่ประเทศจีนเหมือนปีก่อน ทำให้มีการขนส่งสินค้าสะดวกมากขึ้น และการบริหารเที่ยววิ่งขากลับมีปริมาณมากขึ้นเป็น 30-40%ของเที่ยววิ่ง แม้เศรษฐกิจจีนจะมีการฟื้นตัวได้ช้าและต่ำกว่าคาดแต่ด้วยฤดูกาลคาดว่าจำนวนเที่ยวขนส่งจะเพิ่มขึ้น


ขณะที่ธุรกิจซัพพลายเชน โซลูชันส์ มีพื้นที่บริหารคลังสินค้าเพิ่มจากครึ่งปีแรกมีพื้นที่คลังเพิ่มขึ้น 63,800 ตารางเมตร จากการขยายพื้นที่คลัง 2,000 ตารางเมตร เดือน กุมภาพันธ์ 2566 และได้บริหารคลังสินค้าให้กับกู๊ดเยียร์ที่บางปะอิน 30,000 ตารางเมตร เดือน เมษายน 2566  โดยในครึ่งปีหลังจะเข้าบริหารพื้นที่คลังอีก 10,000 ตารางเมตร ให้กับลูกค้าโรงงานกระดาษ เดือน กันยายน 2566 และ 4,000 ตารางเมตร ให้กับลูกค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เดือน ตุลาคม 2566ทำให้รายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง


*ปี 67 กำไรโต

การขนส่งทางเรือและอากาศยังเห็นรายได้ที่ลดลงเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา เพราะค่าระวางเรือและเครื่องบินที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญกว่า 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากในช่วงครึ่งปีแรกตามฤดูกาลที่เป็นไฮซีซัน โดยคาดว่าปริมาณขนส่งทางเรือในปี 2566จะสูงกว่าเล็กน้อยจากปี 2565 ที่ 33,608 Teus ซึ่งในครึ่งปีเเรก ขนส่งแล้ว 16,827 Teus  ส่วนดัชนีค่าระวางเรือ คอนเทนเนอร์ของจีนน่าจะ Bottom Out จากการฟื้นตัวของค่าเฉลี่ยในช่วงไตรมาสที่ 2/2566 เพิ่มขึ้น 1.5% และจากไตรมาสแรก และช่วงไตรมาส 3 (1 ก.ค.-15 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.8%จากไตรมาสที่ 2/2566 คาดการณ์ฟื้นตัวของค่าระวางเรือจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะทั้งเศรษฐกิจจีน สหรัฐ และยุโรปยังชะลอตัว


ส่วนค่าระวางเครื่องบินเป็นไปในทางเดียวกับขนส่งทางเรือ แต่ปริมาณการขนส่งคาดจะดีขึ้นทั้งปี 2566 คาดปริมาณการขนส่งจะใกล้เคียงปี 2565 ที่ 8,803 ตัน ซึ่งในครึ่งปีเเรก ขนส่งแล้ว 3,305 ตัน การขนส่งที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการขยายตลาดและฐานลูกค้าใหม่ คาดว่า ปี 2567 กำไรกลับมาโต จาก Pipeline การขยายธุรกิจที่มีอยู่ในมือ ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น“ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 2567 ที่ 9.35 บาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง