รีเซต

ครอบครัวเผย รพ.ยางตลาด ขอรับผิดชอบ รถพยาบาลฝ่าไฟแดง ชนชายวัย 60 เสียชีวิต

ครอบครัวเผย รพ.ยางตลาด ขอรับผิดชอบ รถพยาบาลฝ่าไฟแดง ชนชายวัย 60 เสียชีวิต
มติชน
23 กันยายน 2565 ( 15:26 )
58
ครอบครัวเผย รพ.ยางตลาด ขอรับผิดชอบ รถพยาบาลฝ่าไฟแดง ชนชายวัย 60 เสียชีวิต

บรรยากาศงานศพลุงถูกรถพยาบาลชนกลางสี่แยกสุดเศร้า ครอบครัวสูญเสียเสาหลัก นายกเทศบาลเชียงยืนตรวจกล้องวงจรปิด ใช้ไม่ได้สักตัว เร่งล้อมคอกแก้ไข

 

เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่วัดโพธิ์ศรีสว่าง บ้านหนองศิริราษฏร์ ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม สถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรมศพ นายบุญยงค์ กายขุนทด อายุ 60 ปี ที่ถูกรถพยายาลของ โรงพยายาลยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พุ่งชนกลางสี่แยก ก่อนเกิดไฟลุกไหม้คลอกร่าง ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยายาลเชียงยืน

 

บรรยากาศงานศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาช่วยกันเตรียมงาน บางส่วนช่วยกันนำเหรียญมาห่อใส่กระดาษแก้วเพื่อทำเป็นทานโปรยในวันฌาปนกิจ ส่วนเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวก็เดินทางมาที่วัด นำข้าวสารเหนียว ผ้า ดอกไม้ และเงินทำบุญมาช่วยงาน เพื่อเป็นการส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์

 

นายลำดวน กายขุนทด พี่ชายผู้เสียชีวิต อายุ 68 ปี กล่าวว่า ทราบข่าวตอนช่วงประมาณ 9 โมง รพ.ให้ญาติไปดู พอเข้าไปดูในห้องฉุกเฉิน หมอให้ยืนยันว่าใช่บุญยงค์จริงหรือไม่ เท่าที่ดูสภาพภายนอกจำไม่ได้เลย แต่มาเห็นแผลเป็นที่ชายโครงด้านขวาก็จำได้เพราะเคยไปผ่าฝีมา เท่าที่หมอเล่าให้ฟังคือไฟลวกทั้งตัวเกินกว่า 50% ซี่โครงขวาหักทั้งแถบ สมองได้รับการกระทบเทือน หมอปั๊มหัวใจจนมีสัญญาณชีพ พอจะส่งตัวต่อที่ไปยัง รพ.ในขอนแก่น ขึ้นรถได้ไม่ถึงนาทีหัวใจก็หยุดเต้นอีก ได้ปั๊มหัวใจอีก 3-4 รอบ จนรอบสุดท้าย ได้บอกไปว่าให้หมอทำให้เต็มที่สุดความสามารถ ถ้าไม่ได้ก็ปล่อยไป

นางสมจิตร แสนคำ ญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่า เห็นคลิปแล้วตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นญาติตัวเอง พอมารู้ก็ถึงกับช็อก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว เมื่อวานนี้โรงพยาบาลยางตลาดส่งตัวแทนนำพวงหรีดมามอบให้ และมีการพูดคุยเบื้องต้นแล้ว บอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ส่วนช่วงเย็นจะมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม อยากให้คนขับรถมาขอขมาศพด้วย

น.ส.ยุพา อินเสนา อายุ 59 ปี ภรรยานายบุญยงค์ กล่าวว่า สามีเป็นคนขยัน เป็นเสาหลักของบ้าน เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบ ขยันขันแข็ง เป็นที่รักของทุกคน ได้ดูคลิปแล้วไฟเขียวขึ้นนานแล้วสามีถึงจะออกรถ สามีเป็นคนระวังที่สุด ไม่เคยขับรถเร็ว เป็นคนตรงต่อเวลา เมื่อวานก็เอะใจอยู่ เพราะปกติ 08.00 น. ต้องกลับเข้าบ้านแล้วแต่เมื่อวาน 08.30 น.ก็ยังไม่เข้าบ้าน จึงไปเรียกน้องเพื่อจะพากันออกไปตามหา พอดีกับตำรวจโทรมาหาน้องที่เป็นผู้ใหญ่บ้านก็เลยได้ทราบข่าว

น.ส.ยุพากล่าวว่า อยากขอความเป็นธรรมให้กับสามี อยากให้คนที่ขับรถชนมาขอขมาเพื่อจะอโหสิกรรมให้กัน ก่อนจะถึงวันเผา จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องไปจองเวรกัน และไม่มีอะไรติดค้างกัน

“เมื่อวานมีตัวแทนมา พูดคุยกันแล้ว มีการถามว่าจะเอาเรื่องอะไรไหม ตอบไปว่าไม่อยากจะเอาเรื่อง แต่สามีเป็นเสาหลักของบ้าน ขาดสามีไปแล้วก็ไม่มีคนให้พึ่งพา เพราะตัวเองก็เป็นแค่ชาวไร่ชาวนาธรรมดา เข้าใจอยู่ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่อยากจะให้เยียวยา เพราะว่าตอนนี้ไม่มีผู้ให้อาศัยพึ่งพิงแล้ว” น.ส.ยุพากล่าว

ด้าน นายนราสิทธิ์ กายขุนทด อายุ 34 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พ่อมีครอบครัวใหม่กว่า 20 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ตนกับแม่เลี้ยงไปมาหาสู่กันตามปกติ พ่อจะเป็นคนห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ทุกอย่างในบ้านพ่อจะดูแลตลอด ตอนนี้เสียเสาหลักไปแล้ว ไม่มีพ่อ แม่เลี้ยงก็เคว้ง

นายนราสิทธิ์กล่าวว่า จากคลิปที่ปรากฏก็เกิดดราม่าเรื่องบีบแตรไล่พ่อ มองว่าก็ผิดเหมือนกัน แต่จะว่าไปก็ไฟเขียวนานแล้ว ตามคลิปก็เห็นพ่อหันหลังกลับมามองอยู่แต่ก็ไฟเขียวแล้วพ่อเลยค่อยๆ ออกรถไป รถโรงพยาบาลก็มาชน แต่อีกใจก็มองว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จะไปโทษเขาก็ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น.ที่ผ่านมา นายชาญวิทย์ พุดบุรี นายกเทศบาลตำบลเชียงยืน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดบริเวณสี่แยกเชียงยืน อ.เชียงยืน ภายหลังจากเมื่อวานนี้ (22 กันยายน) เกิดอุบัติเหตุรถพยาบาลของโรงพยาบาลยางตลาดฝ่าสัญญาณไฟจราจรชนเข้ากับรถจักรยานยนต์กลางสี่แยก ก่อนเกิดไฟลุกไหม้เป็นเหตุให้นายบุญยงค์เสียชีวิต

นายชาญวิทย์กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยก ซึ่งติดตั้งไว้ 4 ตัว ปรากฏว่าไม่สามารถบันทึกภาพได้ จึงแจ้งประสานไปยังช่างซ่อมในพื้นที่ให้เข้าดำเนินการซ่อมแซม เนื่องจากที่ผ่านมาอำเภอเชียงยืนมีฝนตกและพายุเข้ามาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบัน ทำให้กล้องวงจรปิดทั้ง 47 ตัว ที่ติดตั้งภายในเขตเทศบาลตำบลเชียงยืนหลายจุด ไม่สามารถบันทึกภาพได้ ขณะนี้ได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว กล้องบางส่วนสามารถบันทึกภาพได้แล้ว

นายชาญวิทย์กล่าวว่า ยอมรับว่าระบบของกล้องยังเป็นรุ่นเก่า เป็นการลากสาย เมื่อตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหา กล้องบริเวณใกล้เคียงก็จะมีปัญหาตามไปด้วย ซึ่งอายุการใช้งานค่อนข้างนานแล้ว ได้รับงบอุดหนุนมาตั้งแต่ปี 2557

“เรื่องนี้หากใครจะมองว่าเป็นเรื่องวัวหายแล้วล้อมคอก ก็ขอให้เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล เพราะทางเทศบาลเมื่อทราบปัญหาก็จะเข้าดำเนินการแก้ไขตลอด โดยในปี 2566 ได้ตั้งงบประมาณเพื่อเตรียมจัดทำและติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบใหม่ให้ครบวงจร เพื่อให้สามารถบันทึกเหตุการณ์ และช่วยป้องปรามปัญหาอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ได้” นายกเทศบาลตำบลเชียงยืนระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง