โบรกมองทิศทาง PTTGC ปี 2567

โบรกมองทิศทาง PTTGC ปี 2567
#PTTGC #ทันหุ้น - หลังจาก PTTGC แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 2566 โบรกเกอร์มีหลากหลายมุมมองต่อ PTTGC
บล.กสิกรไทยเพิ่มเป้าราคาเป็น 37.00 บาท
บล.กสิกรไทย คาด PTTGC กำไรไตรมาส 1/67 จะลดลง QoQ เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษ โดยผลกระทบของ Single Gas Pool Price ลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 2567 ของบล.กสิกรไทย
บล.กสิกรไทยคาดกำไรไตรมาส 1/ 2567ยังคงอ่อนแอ ในขณะเดียวกัน กำไรปกติน่าจะดีขึ้นในครึ่งแรกของปี 2567 จาก GRM ที่สูงขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นของอะโรเมติกส์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ Singapore GRM เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล QTD เป็น 8.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ในขณะที่ PX และ BZ margin เพิ่มขึ้น 35 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน และ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน ตามลำดับ โดยกำไรไตรมาส 2/2567 น่าจะยังคงได้ประโยชน์จากปริมาณอีเทนที่สูงขึ้น หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างราคา
Downside จากนโยบาย Single Gas Pool Price ลดลง บล.กสิกรไทยคาดว่าผลกระทบของการใช้นโยบาย Single Gas Pool Price จะน้อยกว่าที่คาดไว้เบื้องต้น เนื่องจากส่วนต่างราคาที่ลดลงระหว่างราคาก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและราคา Gas Pool ตามราคา spot LNG ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว เราประเมินผลกระทบต่อกำไรของ PTTGC อยู่ที่ 1.5พันลบ.ต่อปี ลดลงจาก 2.9พันลบ.ต่อปีที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้
Valuation and Recommendation
บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 37.00 บาท แม้ว่าผลกระทบของนโยบาย Single Gas Pool Price จะน้อยกว่าคาด แต่ก็ยังมีนัยสำคัญ (-23%) เมื่อเทียบกับแนวโน้มกำไรปิ้ 2567 ของ PTTGC ดังนั้น บล.กสิกรไทยจึงคงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ PTTGC จากกำไรปี 2566 ที่แข็งแกร่งกว่าคาด 9% ราคาเป้าหมายของเราจึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 36.50 บาท เป็น 37.00 บาท อิง PBV ที่ 0.55 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 1.5SD
บล.ดาโอคาดกำไรปกติฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป
บล.ดาโอมองว่ากำไรปกติ PTTGC มีแนวโน้มฟื้นตัวช้าใน 1Q24 เชื่อว่ากำไรปกติจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปในปี 2024
สำหรับภาพรวมระยะสั้น ผลประกอบการของบริษัทใน 1Q24 จะยังคงมีปัจจัยกดดันจาก 1) แผนการปิดซ่อมบำรุงโรงแครกเกอร์ OLE2/2 (ซึ่งมีกำลังการผลิต ethylene 400 พันตันต่อปี (kta) และ propylene 50 kta) เป็นระยะเวลา 60 วัน โดยบริษัทได้เลื่อนแผนเร็วขึ้นจากเดิมที่วางเอาไว้ใน 3Q24 และนานขึ้น (เดิมคาด 19 วัน) และ 2) แนวโน้ม PE spread ที่ยังทรงตัวต่ำใน 1Q24 แม้ว่าภาพรวมตลาดน่าจะฟื้นตัวได้จากอุปทานใหม่ที่ลดลงมากในปี 2024
Implication
บล.ดาโอปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ลง 19% เป็น 5.9 พันล้านบาทหลักๆเพื่อรวมผลกระทบของ PE spread ที่ลดลง, equity income ที่น้อยลง และค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี บล.ดาโอเชื่อว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโต 18% YoY ในปี 2025 สอดคล้องกับ PE spread ที่ดีขึ้นและ utilization rate ของธุรกิจ PC ที่สูงขึ้น
Valuation/Catalyst/Risk
บล.ดาโอได้ปรับราคาเป้าหมายใหม่ปี 2024 ที่ 34.00 บาท (เดิม 35.00 บาท) อิง 2024 PBV ที่ 0.53x (เท่ากับ -2.00SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง) แม้ว่าบริษัทยังไม่อยู่ในเส้นทางการฟื้นตัวที่ชัดเจนเนื่องจากภาพรวมของธุรกิจหลักยังมีความไม่แน่นอนอยู่ เชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอของบริษัทไปมากแล้ว บล.ดาโอจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ถือ" เพื่อรับเงินปันผลที่ให้ผลตอบแทนในระดับปานกลาง
ทั้งนี้ PTTGC ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.75 บาทต่อหุ้นสำหรับผลประกอบการปี 2023 โดยขึ้น XD วันที่ 23 ก.พ.2024 สะท้อนอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 2.1%
บล.บัวหลวง มอง PTTGC แนวโน้มดีแนะ “ซื้อ”
เมื่อมองไปในไตรมาส 1/67 บล.บัวหลวงคาดว่า PTTGC จะรายงานผลการดำเนินงานหลักอ่อนตัว YoY เนื่องจากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ลดลง แต่กำไรหลักมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น QoQ หนุนโดยปริมาณขายปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น, ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น, และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง
บล.บัวหลวงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน 45.00 บาท ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 18,824 ล้านบาทดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ปรับตัวดีขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้มูลค่าหุ้นปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2567 เพียง 0.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.1 เท่าอยู่ 2.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) เมื่อมองไปข้างหน้า การเข้าซื้อกิจการ Allnex จะเป็นก้าวแรกของ PTTGC ในการเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอให้มีผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและผลประกอบการในระยะยาว
บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์มองแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมียังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว
บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์มองแนวโน้ม PTTGC ในไตรมาส 1/67 มีเพียงธุรกิจโรงกลั่นที่ดูดี ด้วยค่าการกลั่น SG GRM อยู่ที่ 8.5ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล +55%QoQ จะทำให้ EBITDA ของธุรกิจโรงกลั่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ด้วยสัดส่วนกำไรของ PTTGC เกินครึ่งมาจากธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวจากความต้องการชะลอลงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก กำลังผลิตใหม่ของโรงโอเลฟินส์ และโพลีเมอร์ทั้งในภูมิภาคและสหรัฐฯ และภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรปจะกระทบต่อธุรกิจ Performance Materials นอกจากนั้น แนวโน้มต้นทุนก๊าซสำหรับโรงปิโตรเคมี Upstream ใน 1Q67 จะสูงขึ้นตามนโยบายการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ
คำแนะนำ
แนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมียังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว แนะนำเพียง "ถือ" แม้ราคาหุ้น PTTGC จะต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีมาก แต่มองว่าแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมียังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว โดยมีหลายปัจจัยลบกดดันทั้งอุปสงค์ชะลอตัว อุปทานใหม่เพิ่มขึ้น และการปรับโครงสร้างราคาก๊าซซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนก๊าซ ทำให้เราไม่เห็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้น แนะนำเพียง "ถือ"
ปัจจัยเสี่ยง
ภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะชะลอตัว/ซะงักงันของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลก ค่าการกลั่น ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีโอเลฟินส์ & อะโรเมติกส์ และอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนและต่ำกว่าประมาณการ