รีเซต

SCC เอเซียพลัส คาดปีนี้มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากโรงกลั่นในสิงคโปร์-ให้เป้า 210 บาท

SCC เอเซียพลัส คาดปีนี้มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากโรงกลั่นในสิงคโปร์-ให้เป้า 210 บาท
ทันหุ้น
2 พฤษภาคม 2568 ( 09:09 )
11

#SCC #ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC โดยคงคำแนะนำถือ ให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 210 บาท มองว่าความน่าสนใจของ SCC อยู่ที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PBV เพียง 0.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 10 ปีถึง 1.7 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขณะที่กำไร ไตรมาส 1/68 แม้จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 11% ของประมาณการกำไรปี 2568 ที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ 10,124 ล้านบาท แต่ช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสที่ SCC จะบันทึกกำไรพิเศษผ่านบริษัทลูกคือ Chandra Asri ที่เข้าซื้อโรงกลั่นในสิงคโปร์จาก Shell ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ ซึ่งจะทำให้เกิด Negative Goodwill บวกกับต้นทุน Naphtha ที่ลดลง และการปรับขึ้นราคาขายปูนซีเมนต์ในประเทศซึ่งจะส่งผลบวกตั้งแต่ไตรมาส 2/68  เป็นต้นไป

 

โดยทุกธุรกิจหลักของ SCC มีแผนรับมือสถานการณ์ปัจจุบันทั้งมาตรการระยะสั้น และระยะยาว ด้วยการมุ่งเน้นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง การมองหาตลาดใหม่ที่ยังมีศักยภาพการเติบโต ลงทุนโครงการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อลดภาระดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ SCC อย่างไรก็ตาม ฐานกำไรปกติในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้าของ SCC ยังคงอยู่ในระดับต่ำ เพราะต้องมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายคงที่ในระดับสูงของโรงงาน LSP ในเวียดนาม

 

ส่วยประเด็นสงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอน แม้ SCC จะได้รับกระทบทางตรงจากประเด็นดังกล่าวไม่มาก เพราะมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปสหรัฐเพียง 1% ของยอดขายรวม แต่ผลกระทบทางอัอมถือว่ามีนัยสำคัญ เนื่องจากสงครามการค้าที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและบรรจุภัณฑ์ที่จะลดลงตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงการผลิตของโรงงานปิโตรเคมีในประเทศจีนที่ต้องใช้ Feed Stock จากสหรัฐ 

 

อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 2/68 ฝ่ายวิจัยประเมินว่า SCC น่าจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้อยู่บ้าง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก ส่งผลบวกต่อผู้ผลิตโอเลฟินส์ที่ใช้ Naphtha เป็น Feedstock อย่าง SCC โดยราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทุก 15 USD/บาร์เรล จะทำให้ราคา Naphtha ลดลง 100 USD/ton และทำให้ SCC ประหยัดต้นทุนพลังงานที่เกิดจากการนำ By-product เหลือทิ้งจาก Feedstock Naphtha มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20% ของ Naphtha ทั้งหมด ได้ถึง 4 พันล้านบาท/ปี 

 

นอกจากนี้คู่แข่งในธุรกิจปิโตรเคมีจากจีนต้องเผชิญข้อจำกัดมากขึ้นในการจัดหา Feedstock ได้แก่ Ethane และ Propane ที่รับมาจากสหรัฐ อาจทำให้ภาวะอุปทานล้นตลาดผ่อนคลายลงได้บ้าง สำหรับธุรกิจปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ก็จะได้รับผลบวกจากต้นทุนพลังงานที่ปรับลง และได้รับอานิสงค์เต็มที่จากการประกาศปรับขึ้นราคาปูนซีเมนต์ในประเทศขึ้น 400 บาท/ตันตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค 68 ส่วนธุรกิจ Packaging ภายใต้ SCGP น่าจะได้ประโยชน์ช่วงสั้นๆจากการที่ผู้ส่งออกของอาเซียนจะเร่งผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐให้มากที่สุดก่อนที่มาตรการภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะเวียดนามที่มีการส่งออกสินค้าสำคัญอย่าง สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และ รองเท้า

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง