ASAP ฉางอันยอดจองพุ่ง ลั่นพร้อมส่งมอบล็อตแรก

นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ทิศทางธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Changan (ฉางอัน) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ผ่านบริษัทลูกอย่าง บริษัท อีเทอนิตี้ แอทวัน จำกัด ซึ่ง ล่าสุด รถยนต์รุ่นใหม่ Changan S05ได้รับความสนใจอย่างมาก มียอดจองสะสมแล้วกว่า 2,000-3,000คัน คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบล็อตแรกปลายเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับ Changan S05 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงที่ใช้เทคโนโลยี REEV (Range Extended EV) หรือระบบขยายระยะทาง ซึ่งใช้เครื่องยนต์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรีเมื่อพลังงานต่ำ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางไกลได้ถึง 1,100- 1,200 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็มและน้ำมันเต็มถัง พร้อมรับประกันยาวนานสูงสุด 8 ปี
*ขยายโชว์รูมเพิ่ม
ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความสนใจที่ล้นหลามจากลูกค้า ASAP ได้เตรียมความพร้อมในการเปิดให้ทดลองขับ Changan S05 อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ผ่านเครือข่ายโชว์รูมของ Eternity @One ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 29 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนขยายเพิ่มเป็น 50 แห่งภายในสิ้นปีนี้
“สำหรับการส่งมอบรถล็อตแรกจะเริ่มในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ โดยบริษัทมั่นใจว่าภายใน 2-3 เดือนถัดไปจะสามารถส่งมอบได้ครบตามยอดจองทั้งหมด โดยขณะนี้ได้มีการเตรียมแผนงานร่วมกับดีลเลอร์เพื่อบริหารจัดการด้านการส่งมอบและบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ด้วยศูนย์บริการที่กระจายทั่วประเทศ รวมถึงความพร้อมของอะไหล่จากโรงงานผลิตในประเทศไทย จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่” นายทรงวิทย์กล่าว
*ลุยผลิตเต็มรูปแบบ
ในด้านการผลิต ASAP เปิดเผยว่า โรงงานผลิต Changan ในไทยได้เปิดดำเนินการแล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะจัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทย และเป็น Hub กระจายสินค้าไปสู่อาเซียน บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม WHA4 จ.ระยอง เริ่มสายการผลิตรุ่นแรกคือ S05
โดยโรงงานออกแบบเป็น Smart Factory เชื่อมต่อระบบ IOT ครบวงจร ใช้หุ่นยนต์ AGV และแขนกลในสายการผลิต สามารถผลิตรถไฟฟ้าและ REEV ได้พร้อมกันบนสายการผลิตเดียว นอกจากนี้ โรงงานยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) รองรับได้ถึง 40% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในโรงงาน และเตรียมตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในประเทศเพื่อยกระดับเทคโนโลยียานยนต์ในอนาคต
*ธุรกิจรถมือสองฟื้นตัว
ขณะเดียวกัน ธุรกิจรถเช่าระยะยาวของ ASAP ยังรักษาระดับการเติบโตได้ดี โดยมีการปรับพอร์ต ลดการให้บริการรถโลจิสติกส์ และหันมาเน้นกลุ่มองค์กรที่ใช้รถยนต์ในลักษณะ Positioning Car ช่วยลดต้นทุน และยืดอายุใช้งานได้มากขึ้น
ด้านธุรกิจรถยนต์มือสองก็มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังผ่านจุดต่ำสุดเมื่อปีที่แล้ว โดยราคาตลาดเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นราว 20% และคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ไปอีกระยะหนึ่ง
อนึ่ง ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,573.53 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 61.73% จากระดับ 4,111.99 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 18.23 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 75.85 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าการปรับพอร์ตสู่ธุรกิจ EV อย่างจริงจัง จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในระยะยาว