BDMS มุมมองโบรกหลังพบนักวิเคราะห์

#bdms #ทันหุ้น - การซื้อขายหุ้นของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS ราคาอยู่ในช่วง 21.50-21.70 บาท ก่อนปิดครึ่งวันเช้าที่ 21.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 248.53 ล้านบาท
BDMS จัดประชุมนักวิเคราะห์ โบรกเกอร์มีการปรับคาดการณ์ปี 2568 ลดลง และปรับลดราคาเหมาะสมของหุ้นลง
.
บล.พาย คาดกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/68 เติบโต YoY แม้ลดลง QoQ
บล.พายคงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 26 บาท จากคาดการณ์
รายได้ปี 2568 ที่เติบโตในอัตราลดลง (-2%) โดยใน ไตรมาส 1/68 ประกาศกำไรสุทธิที่ 4.3 พันล้านบาท (+7% YoY) ทรงตัวจากไตรมาสก่อน หนุนจากรายได้รับรู้จากโรงพยาบาลและเตียงผู้ป่วยใหม่ และ 2) การเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มตะวันออกกลาง (+22%YoY) และ CLMV (+11% YoY) ขณะที่ใน ไตรมาส 2/68 บล.พายมองว่าผลประกอบการจะเติบโต YoY แม้อ่อนตัว QoQ จาก 1) ปัจจัยฤดูกาล และ 2) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติชะลอตัวในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบระยะสั้นจากเหตุแผ่นดินไหว ทั้งนี้ บล.พายคาดสามารถชดเชยจากการฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม (+6% YoY)
.
บล.เมย์แบงก์ ระบุว่าการเติบโตชะลอลง แต่ยังแข็งแกร่ง
บล.เมย์แบงก์ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" BDMS แต่ปรับลดราคาเป้าหมายจากวิธี DCF เหลือ 27.50 บาท บล.เมย์แบงก์มองว่าโทนจากการประชุมนักวิเคราะห์ค่อนข้างลบเล็กน้อย สะท้อนถึงเป้ารายได้ที่อ่อนแอ ลง แนวโน้มอัตรากำไรที่ระมัดระวัง และความเสี่ยงระยะยาวจากผู้ป่วยตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม บล.เมย์แบงก์ยังคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไร (CAGR) อยู่ที่ 5% ในช่วงปี 68–70 และกำไรในไตรมาส 2/68 มีแนวโน้มเติบโตมากกว่า 5% YoY ทั้งนี้ ที่ระดับ P/E ปี 68 ที่ 20 เท่า บล.เมย์แบงก์เชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนการเติบโตที่ชะลอตัวไปแล้ว แม้ว่า PR9 (คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 32 บาท) จะยังคงเป็นหุ้นโรงพยาบาลที่บล.เมย์แบงก์ชื่นชอบที่สุดจากการเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติที่แข็งแกร่ง แต่ BDMS ยังคงเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มโรงพยาบาลที่บล.เมย์แบงก์ชอบมากกว่า BH (คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 225 บาท) จากการเติบโตของกำไรที่ต่อเนื่อง Upside ได้แก่ เศรษฐกิจฟื้นตัว จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
บล.อินโนเวสท์เอกซ์ ปรับเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2568
BDMS ปรับเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2568 เป็น 4–6% (จากเดิมตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในครึ่งปีแรก 2568 ที่ 7–8%) เพื่อสะท้อนมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อกลุ่มผู้ป่วยชาวไทย ในขณะที่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ เป้าหมายดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของบล.อินโนเวสท์เอกซ์ ดังนั้นบล.อินโนเวสท์เอกซ์จึงคงประมาณการการเติบโตของกำไรปี 2568 ไว้ที่ 8% บล.อินโนเวสท์เอกซ์ยังคงชอบ BDMS เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องผ่าน Center of Excellence และมีแนวโน้มกำไรที่ดี BDMS เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของบล.อินโนเวสท์เอกซ์ในกลุ่มการแพทย์ บล.อินโนเวสท์เอกซ์แนะนำ Outperform โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 32 บาท
.
บล.เคจีไอ ระบุว่าหลังจากที่ BDMS ได้ประกาศผลประกอบการน่าประทับใจด้วยกำไรสุทธิใน ไตรมาส 1/68 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในเบื้องต้นบล.เคจีไอคาดว่า กำไรของ BDMS จะเติบโตดี YoY ต่อใน ไตรมาส 2/68 ทั้งนี้ บล.เคจีไอคาดว่า รายได้จะเติบโตจากผู้ป่วยชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นและแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งในการรักษาประเภทที่มีความซับซ้อน (intensity) สูงจากศูนย์ความเป็นเลิศ (Center of Excellence: CoE) ทั้งนี้ BDMS ยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของบล.เคจีไอในกลุ่มนี้ โดยบล.เคจีไอคงคำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2568F ที่ 32.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.0% และ TG ที่ 2.0%)
บล.กรุงศรี ระบุว่าเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้มีความระมัดระวังขึ้น
บล.กรุงศรีมีมุมมอง Neutral ต่อโทนการประชุมกับ BDMS เนื่องจาก 1) ทิศทางรายได้ต่างชาติเติบโตสอดคล้องกับประมาณการบล.กรุงศรี แต่จะถูกดึงจากรายได้ชาวไทยมีแนวโน้มเติบโตน้อย 2) ผู้บริหารมีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อการเติบโตรายได้ปีนี้เหลือ 4–6% (สมมติฐาน GDP 1.5%) ทำให้ประมาณการรายได้ของบล.กรุงศรีอาจมี downside ราว 3–4% ทั้งนี้กรณี GDP เติบโตดีกว่า 1.5% จะทำให้การเติบโตรายได้มีโอกาสดีกว่าเป้าหมายบริษัท นอกจากนี้ราคาหุ้นที่ปรับลง -12% YTD มองว่าตอบรับความเสี่ยง downside จากเป้าหมายการเติบโตรายได้ของบริษัทแล้ว ยังเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นกลุ่มฯ ร่วมกับ BCH