“ไม่โกง ไม่เทา ไม่เกาหลัง” ชัยวุฒิ ประกาศจุดยืนพรรครักชาติ เลือกตั้ง 2569

นายชัยวุฒิยอมรับว่า พรรครักชาติในฐานะพรรคการเมืองน้องใหม่เผชิญแรงกดดันไม่น้อย เนื่องจากเปิดตัวไม่นานและเกิดการยุบสภาก่อนส่งผู้สมัครครบทุกเขต แต่พรรคยังคงเน้นพื้นที่กรุงเทพมหานครและระบบบัญชีรายชื่อเป็นหลัก พร้อมวางตัวเป็นทางเลือกใหม่ให้ประชาชนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด

หัวหน้าพรรครักชาติระบุว่า ปัญหาการเมืองไทยในช่วง 10–20 ปีที่ผ่านมา ยังวนอยู่กับกลุ่มคนเดิมและตระกูลการเมืองเดิม ส่งผลให้ประเทศถดถอยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน พรรคจึงตั้งใจเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่จริง ๆ เข้ามาคิดและทำงานด้วยตัวเอง โดยไม่มีการครอบงำจากกลุ่มทุนหรือผลประโยชน์แอบแฝง ทีมงานหลักของพรรคเป็นคนอายุราว 20 กว่าปี ทั้งจากสายวิชาการและภาคธุรกิจ แต่มีจุดร่วมคือแนวคิดรักชาติและความตั้งใจเสียสละเพื่อบ้านเมือง

นายชัยวุฒิยังกล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยว วัฒนธรรม การพัฒนาอุตสาหกรรมต่อยอดจากฐานเดิม รวมถึงการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ทุนสีเทา และอาชญากรรมออนไลน์ โดยเห็นว่าการเมืองของคนรุ่นใหม่หากขาดกรอบความมั่นคงและความรักชาติ อาจสร้างผลกระทบต่อประเทศในระยะยาว

สำหรับบทบาททางการเมือง หากพรรครักชาติไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชัยวุฒิมองว่า พรรคขนาดกลางหรือขนาดเล็กยังสามารถเป็น “ตัวแปร” สำคัญในการกำหนดทิศทางประเทศได้ โดยตั้งเป้ามี สส. อย่างน้อย 25 คน เพื่อใช้เสียงในสภาเป็นเงื่อนไขต่อรองให้เกิดรัฐบาลที่มีคณะรัฐมนตรีมืออาชีพ ไม่ทุจริต และไม่ผลักดันนโยบายที่กระทบต่อประชาชนหรือความมั่นคงของชาติ

ในประเด็นรัฐธรรมนูญ นายชัยวุฒิแสดงจุดยืนว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นในการยกร่างใหม่ทั้งฉบับ โดยมองว่าปัญหาหลักอยู่ที่กฎหมายลูกและกลไกการบังคับใช้ ซึ่งสามารถแก้ไขเป็นรายมาตราได้ พร้อมเตือนประชาชนให้พิจารณาอุดมการณ์ของพรรคการเมืองอย่างรอบด้าน เพราะการเลือก สส. ไม่ใช่แค่การเลือกรัฐบาล แต่คือการให้อำนาจในการออกกฎหมายที่ส่งผลต่อประเทศในระยะยาว

ช่วงท้าย นายชัยวุฒิย้ำว่า แม้พรรครักชาติจะเป็นพรรคใหม่ แต่ต้องการสร้างการเมืองที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานด้วยความซื่อสัตย์ และยึดประโยชน์ของชาติเป็นหลัก พร้อมเชื่อว่าพรรครักชาติจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชนในการเลือกตั้งปี 2569