ทำความรู้จัก “โอมิครอน XE ” อันตรายกว่าเดิมหรือไม่?
จากกรณี องค์การอนามัยโลก (WHO)ออกมาเปิดเผยการค้นพบ โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยชนิดใหม่ XE ซึ่งประมาณการว่าสามารถแพร่ระบาดได้ไวกว่า โอมิครอน BA.2 ราว 10 % ซึ่งมีข้อมูลเบื้องต้นต่อไปนี้
โอมิครอน XE เกิดขึ้นได้อย่างไร?
โอมิครอนสายพันธุ์ XE เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์โอมิครอน BA.1 และ BA.2 โดย XE จะยังคงถือเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนจนกว่าจะมีรายงานที่แสดงถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในด้านการแพร่เชื้อและลักษณะของโรคซึ่งรวมถึงความรุนแรง
โอมิครอน XE อันตรายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือไม่?
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า "จากการประมาณการในช่วงแรกบ่งชี้ว่า XE มีอัตราการแพร่เชื้อในชุมชนได้มากกว่าสายพันธุ์ BA.2 อยู่ราว 10% อย่างไรก็ตาม การค้นพบนี้จำเป็นต้องได้รับการยืนยันเพิ่มเติม"
ขณะที่ ซูซาน ฮอปกิ้นส์ หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (HSA) กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปเกี่ยวกับความสามารถในการแพร่เชื้อ ความรุนแรง หรือประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันสายพันธุ์ XE
โอมิครอน XE ค้นพบครั้งแรกที่ไหน-เมื่อใด
สำหรับไวรัสสายพันธุ์ XE นั้นได้รับการตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 ม.ค. และมีผู้ติดเชื้อ XE ที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 600 รายนับตั้งแต่นั้น
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า จะยังคงติดตามอย่างใกล้ชิดและประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับไวรัสลูกผสมต่าง ๆ อาทิ สายพันธุ์ XE และจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อมีหลักฐานมากขึ้น นอกเหนือจากสายพันธุ์ XE แล้ว WHO ยังจับตาโควิดสายพันธุ์ XD ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างเดลตาและโอมิครอน ซึ่งพบส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส, เดนมาร์ก และเบลเยียม
ทั้งนี้ WHO ยังไม่มีหลักฐานว่า โควิดสายพันธุ์ XD มีความสามารถในการแพร่เชื้อมากขึ้นหรือทำให้เกิดอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ภาพจาก : AFP