รีเซต

TISCO ลุยเพิ่มสาขาสมหวัง ดันพอร์ตสินเชื่อปีนี้โต10%

TISCO ลุยเพิ่มสาขาสมหวัง ดันพอร์ตสินเชื่อปีนี้โต10%
ทันหุ้น
11 สิงหาคม 2566 ( 18:42 )
95

TISCO คงเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 5-10% ยังเน้นขยายสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง และสินเชื่อธุรกิจ มั่นใจคุม NPL ไม่เกิน 4% ย้ำตั้งสำรองในสัดส่วนลดลงหนุนศักยภาพทำกำไรทรงตัวหลังต้นทุนสูงจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ลั่นลุยขยายสาขา “สมหวังเงินสั่งได้” ทั้งปี 200 สาขา ด้านนักวิเคราะห์แนะ “ซื้อ” เป้า 111 บาทคาดปันผลสูง 8.2%

 

นายชาตรี จันทรงาม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงิน และบริหารความเสี่ยง บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยว่า กลุ่ม TISCOคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศขึ้นอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศ ทั้งปี 2566 เร่งตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 2.50% ต่อปี ซึ่งจะกดดันศักยภาพการทำกำไร และส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของบริษัทต่อเนื่องอีกราว 6-12 เดือนข้างหน้า จากการคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Interest Red)

 

เดินเกมรุกสินเชื่อ

อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลังของปี 2566 (2H66) กลุ่ม TISCO จะยังคงกลยุทธ์การเติบโตสินเชื่อในเชิงรุก มุ่งเน้นกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกันทั้งสินเชื่อเช่าซื้อ, สินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง เป็นต้น ผ่านการขยายสาขา “สมหวัง เงินสั่งได้” อีกราว 65-150 สาขา หลังจากช่วงครึ่งแรกของปี 2566 (1H66) สามารถเปิดสาขาได้เพียง 85 สาขา

 

พร้อมกันนี้ กลุ่ม TISCO ยังคงขยายฐานลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ (Corporate) โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จึงยังคงมั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อใหม่ทั้งปี 2566 จะขยายตัวได้ 5-10% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs ratio) เฉลี่ยให้อยู่ในกรอบไม่เกิน 4%

 

“แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อธุรกิจจะต่ำกว่าสินเชื่อทะเบียนรถ (Auto Title Loan) แต่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น กลุ่ม TISCOสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อธุรกิจให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ทันที ขณะที่สินเชื่อรายย่อยส่วนหนึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่จึงปรับขึ้นได้ช้ากว่า ดังนั้นภาพรวมครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา จึงยังเห็นการขยายตัว NIM ได้ในระดับหนึ่ง”

 

ทั้งนี้ กลุ่ม TISCO ยังคงติดตามแนวทางการดำเนินมาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (responsible lending)โดยเฉพาะการกำหนดภาระหนี้ต่อรายได้ (debt service ratio: DSR) ซึ่งหากในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ธปท. จะกำหนดให้ผู้ให้สินเชื่อคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระรวมของลูกค้าเป้าหมาย เพื่อพิจารณาปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับนโยบายดังกล่าว

 

“ความพยายามในการแก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั้งยืนของธปท. ในระยะสั้นแม้จะไม่กดดันศักยภาพการขยายฐานสินเชื่อที่มีหลักประกัน แต่ในอนาคตหากธปท.จะกำหนดให้ผู้ปล่อยสินเชื่อคำนวณสัดส่วนหนี้สินทั้งหมดต่อฐานรายได้ของลูกหนี้แต่ราย เพื่อให้ลูกหนี้มีความสามารถในการผ่อนชำระได้อย่างต่อเนื่อง ถึงตอนนั้นก็อาจส่งผลกดดันธุรกิจสินเชื่อโดยรวม”

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีศักยภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายว่าธนาคารสามารถคุมต้นทุน (Cost to Income Ratio) ได้ดี จากการรักษาระดับการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ให้สอดคล้องกับสัดส่วนการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ประกอบกับกลุ่ม TISCOยังมีเงินกองทุน (LLR) ส่วนเกินในสัดส่วนสูงมาก

 

แนะ “ซื้อ” เป้า 111 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดครี่งหลังของปี 2566 (2H66) มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้ส่วนใหญ่น่าจะยังคงมาจากธุรกิจธนาคาร ซึ่งคิดเป็น 70% ของรายได้จากการดาเนินงานรวมในช่วงครี่งแรกของปี 2566 (1H66) ที่ผ่านมา หนุนจากการขยายพอร์ตสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยสูง (High Yield) ควบคู่กับการดำเนินนโยบาย Credit cost ที่อยู่ในระดับต่ำ

 

แม้ว่ายังคงมีปัจจัยกดดันจากอัตราดอกเบี้ย “ขาขึ้น” แต่คาดว่าธนาคารฯ จะสามารถจัดการให้ผลประกอบการโดยรวมใกล้เคียงกับเป้าประมาณการของบริษัทฯ โดยยังคงประมาณกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ไว้ที่ 7,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% YoY และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 111 บาท พร้อมคาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 8.2%

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง