รู้จัก BurnBot รถควบคุม “ไฟป่า” สร้างแนวกันไฟ พร้อมลดเชื้อเพลิงไฟป่า

“ไฟป่า” เป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นทุกปีจากความแห้งแล้งและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานจัดการไฟป่าต้องสรรหาวิธีใหม่ ๆ ในการลดเชื้อเพลิงทางธรรมชาติ หรือพืชสะสม (Fuel Load) ลงอย่างปลอดภัย
หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือ BurnBot นวัตกรรมจากสตาร์ทอัปในซานฟรานซิสโกชื่อเดียวกับตัวเทคโนโลยี ที่ออกแบบมาเพื่อทำ “Prescribed Burn” หรือ “การเผาแบบควบคุม” ซึ่งหมายถึงกระบวนการจุดไฟเผาพื้นที่อย่างตั้งใจ และอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด” เพื่อจัดการเชื้อเพลิงในธรรมชาติ เช่น หญ้าแห้ง กิ่งไม้ ใบไม้ พุ่มไม้ หรือวัชพืชที่สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟป่ารุนแรงในอนาคต ให้ปลอดภัย เร็ว และแม่นยำกว่าเดิมหลายเท่า
BurnBot คืออะไร ?
BurnBot คือระบบเครื่องจักรกลอัจฉริยะสำหรับทำ Blackline Burns หรือการเผาเพื่อ “สร้างแนวกันไฟ” แบบควบคุม ทำงานได้ภายใต้สภาพแวดล้อมจริง ไม่ว่าจะเป็นความชื้นสูง ลมแรง หรือพื้นที่ลาดชัน
BurnBot RX มีทั้งหมด 2 รุ่น มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับรถแทร็ก ใช้รางล้อคล้ายกับรถถัง ทำให้เคลื่อนที่บนพื้นขรุขระได้ดี ตัวรถยาวประมาณ 9 เมตร และกว้างประมาณ 3 เมตร
BurnBot RX ประกอบไปด้วย โครงสร้างห้องเผา (Burn Chamber) ติดตั้งอยู่ด้านหลังตัวรถ ใช้สำหรับควบคุมอุณหภูมิของเปลวไฟ มีหัวพ่นโพรเพนแรงดันสูง (propane torches) หลายแถว อยู่ใต้ตัวเครื่อง ใช้สำหรับสร้างแนวเผาได้อย่างแม่นยำ
ติดตั้ง พัดลมขนาดใหญ่ ไว้รอบห้องเผา ใช้สำหรับดูดอากาศเข้าและระบายความร้อนด้านบนของห้องเผา ด้านหลังห้องเผามี ลูกกลิ้งเหล็ก (steel rollers) สำหรับกดซากไฟและสะเก็ดไฟให้ดับสนิท และ ระบบสเปรย์น้ำ (water spray) ที่ด้านหลัง เพื่อฉีดดับเปลวไฟหรือจุดที่ยังร้อนหลังการเผา
BurnBot RX หรือเครื่องรุ่นแรก ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ผ่านการควบคุมจากระยะไกล ช่วยให้ทีมเจ้าหน้าที่ไม่ต้องเข้าใกล้ไฟโดยตรง ลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ และเพิ่มความแม่นยำในการเผา ทำงานได้เร็วกว่าแรงงานแบบเดิม 3–4 เท่า และใช้เจ้าหน้าที่ในการจัดการเพียง 3–6 คน สร้างควันและสะเก็ดไฟได้น้อย ลดปัญหาด้านคุณภาพอากาศ ทำงานได้บนพื้นที่ลาดชัน 20–30 องศา จัดการเชื้อเพลิงได้สูงสุด 2.7 เมตร สามารถทำงานได้ใกล้บ้าน และเสาไฟฟ้าในระยะ 1.5 เมตร ได้อย่างปลอดภัย
BurnBot RX2 หรือรุ่นที่ 2 เป็นรุ่นที่อัปเกรดมาจาก BurnBot RX นอกจากความสามารถดั้งเดิมจากรุ่นแรกแล้ว รุ่นนี้ยังออกแบบมาให้สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมจริงที่มีข้อจำกัดสูง เช่น พื้นที่ที่มีความชื้นสูง ทนฝนที่ตกแบบปรอย ๆ ทนแรงลมระดับ 31 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำงานได้บนพื้นที่ไม่เรียบ เช่น เนินเขา มีระบบบันทึกข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทั้งพิกัด GPS ข้อมูลสภาพอากาศ และประสิทธิภาพในการเผาไหม้ และสร้างเป็นรายงานดิจิทัล ให้หน่วยงานนำไปใช้วิเคราะห์และวางแผนได้ทันที
BurnBot RX2 จะถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น อดีตนักดับไฟป่าผ่านระบบ Remote Control จากระยะไกลกว่า 152 เมตร
กระบวนการทำงานของ BurnBot RX
เมื่อ BurnBot RX ถูกนำเข้าไปยังพื้นที่ที่ต้องการลดเชื้อเพลิง มันจะเคลื่อนที่บนรางแทร็กที่ออกแบบมาให้วิ่งบนพื้นผิวขรุขระได้อย่างมั่นคง จากนั้นห้องเผาปิดผนึกของเครื่องจะเริ่มทำงาน โดยหัวพ่นโพรเพนภายในจะจุดไฟควบคุมอย่างแม่นยำ ทำให้พืชพรรณที่แห้งและเชื้อเพลิงบนพื้น ถูกเผาไหม้ภายในห้องเผาโดยไม่ปล่อยสะเก็ดไฟออกสู่ภายนอก
จากนั้น พัดลมดูดอากาศด้านข้างจะช่วยควบคุมทิศทางลมให้ไหลเข้าสู่ภายในห้อง เพื่อดึงเปลวไฟและควันให้อยู่ในระบบปิด จำกัดการฟุ้งกระจาย และยังช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจนเกิดควันน้อยลง
ในขณะที่ BurnBot RX กำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เปลวไฟที่ถูกควบคุมภายในห้องเผาจะสร้าง “แนวเผา” หรือ Blackline ที่เรียบและคงเส้นคงวา ซึ่งเป็นแนวปลอดเชื้อเพลิงที่ใช้เป็นโครงสร้างสำคัญในการป้องกันไฟลุกลาม เมื่อ BurnBot RX เผาเชื้อเพลิงเสร็จ ระบบด้านท้ายของเครื่องจะเริ่มทำงานทันที ลูกกลิ้งเหล็กจะกดทับพื้นเพื่อทำให้ขี้เถ้าและเศษไฟดับตัวเอง และหัวฉีดน้ำที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังจะพ่นละอองน้ำบาง ๆ เพื่อลดความร้อนในพื้นที่ที่เพิ่งเผา ช่วยควบคุมไม่ให้เกิดการลุกขึ้นใหม่ของไฟ
ตลอดการทำงาน เครื่องจะบันทึกข้อมูลจากเซนเซอร์ เช่น GPS สภาพอากาศ ระดับความร้อน และสภาพพื้นที่ ข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลของ BurnBot เพื่อให้ผู้ใช้วางแผนด้านไฟป่า สามารถประเมินประสิทธิภาพของการเผาและจัดการพื้นที่ในอนาคตได้ดีขึ้น
ระบบควบคุมทั้งหมดถูกดำเนินการจากระยะไกลโดยผู้ควบคุมที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ทำให้การทำงานไม่เสี่ยงเหมือนการจุดไฟแบบใช้แรงงานมนุษย์ และเพราะ BurnBot RX2 สามารถทำงานได้แม้ในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการเผาแบบดั้งเดิม เช่น ความชื้นสูงหรือฝนปรอย จึงช่วยขยายช่วงเวลาที่สามารถทำการจัดการเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งปีช
เป้าหมายหลัก “ลดเชื้อเพลิงไฟป่าอย่างยั่งยืน”
BurnBot ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยหน่วยงานด้านไฟป่าและสิ่งแวดล้อมทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วย 4 วิธีการ
สร้างพื้นที่กันไฟ (Defensible Space)
จัดการพืชเชื้อเพลิง (Fuel Loads)
วางแผนด้วยข้อมูลความละเอียดสูง
ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ
แพลตฟอร์มข้อมูลของ BurnBot ยังสามารถสร้างแผนที่, ติดตามการทำงาน และวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงข้อมูลอีกด้วย
เทคโนโลยีของ BurnBot ช่วยให้
ลดความเสี่ยงไฟป่าโดยการจัดการเชื้อเพลิงอย่างปลอดภัย
ทำงานใกล้โครงสร้าง เช่น บ้าน สายไฟฟ้า หรืออาคารสำคัญได้
ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น โครงสร้างดิน หรือพืชท้องถิ่น
ลดการแพร่กระจายของพืชรุกราน (Invasive Species)
สามารถช่วยลดต้นทุนและเวลาเมื่อเทียบกับการจัดการแบบดั้งเดิม
ในอนาคต BurnBot ตั้งเป้าที่จะพัฒนาให้เป็นระบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ และจะสามารถประสานงาน BurnBot หลาย ๆ เครื่อง เพื่อการเผาที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม
แหล่งที่มา : interestingengineering.com/
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
