รีเซต

CRCอีบิทดาโตสองหลัก ปีนี้ลงทุน1.9หมื่นล้าน

CRCอีบิทดาโตสองหลัก ปีนี้ลงทุน1.9หมื่นล้าน
ทันหุ้น
7 มีนาคม 2568 ( 10:58 )
30

#CRC #ทันหุ้น - CRC วางเป้าหมายรายได้ปีนี้ขยายตัว 6-10% จากยอดขายสาขาเดิมโต หวัง EBITDA เพิ่มเป็น สอง หลัก คงมาร์จิ้นขายระดับ 26.5% เผย 2 เดือนแรกภาพรวมดีทั้งในและต่างประเทศ มองเวียดนามเป็นโอกาส งบลงทุน Capex 1.7-1.9 หมื่นล้านบาท จัดสรรปรับปรุงและขยายสาขาอย่างละครึ่ง ส่วนหุ้น Grabs Holdings ใน NASDAQ รอการพิจารณาขายในอนาคต


นางสาวศุภลักษณ์  ปรมสวัสดิ์  ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งผ่านการถือหุ้นบริษัทย่อย-บริษัทร่วม เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายการขยายตัวรายได้ปี 2568 ในช่วง 6-10% จากการเติบโตของยอดขายในแต่ละสาขาสนับสนุน พร้อมกับเป็นแพลตฟอร์ม Omni Retail & Wholesale ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเป็นผู้นำในตลาดที่มีการเติบโตทั้งออฟไลน์และออนไลน์


ทั้งนี้งบการเงินสิ้นปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 262,804 ล้านบาท จำแนกสัดส่วนรายได้ตามธุรกิจดังนี้ อาหาร 40%, ฮาร์ดไลน์ (สินค้าที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง) 31% และ แฟชั่น 29% ขณะที่จำแนกตามภูมิศาสตร์รายได้หลักมาจากประเทศไทย 73%, เวียดนาม 20% และ อิตาลี 7%


@เป้าหมายกำไร

ส่วนแนวโน้มกำไร ประเมินจะขยายตัวเช่นเดียวกับรายได้ มีเป้าหมายจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นยอดขาย หรือ GP Sale ให้อยู่ระดับ 26.5% มีการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ SSSG เพิ่มในระดับต่ำกว่า 10% และมีกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ขยายตัวเป็นเลข สองหลัก จากปีก่อนรายงานอยู่ที่ 32,436 ล้านบาท


ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งมีความสัมพันธ์กับสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในประเทศไทยจะมากเป็น 3 เท่าของจีดีพีประเทศ ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมาทำได้ตามเป้าหมาย และสืบเนื่องมายัง 2 เดือนแรกปีนี้ ยอดขายจากธุรกิจอาหารและแฟชั่น ก็ยังผลักดันในภาพรวมได้อยู่ แม้ฮาร์ดไลน์จะไม่ดีนัก


ปัจจัยบวกส่วนหนึ่งมาจากนโยบายเศรษฐกิจจากรัฐบาลโดยเฉพาะ Easy e-Receipt กระตุ้นการจับจ่ายได้ และอีกทั้งการที่บริษัททยอยปรับปรุงห้างร้านค้าต่างๆ ก็ช่วยให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ เช่น โรบินสัน บางรัก ที่เพิ่งปรับเปลี่ยนเป็น เซ็นทรัล บางรัก เมื่อเดือนมกราคม 2568 ก็พบว่ายอดขายขยายตัวชัดเจนถึง 30%


นอกจากนี้ในประเทศยังมีธุรกิจพรอพเพอร์ตี้ที่มีโอกาสเติบโตอย่างน่าสนใจ อย่างไรก็ตามบริษัทยังต้องการหาธุรกิจใหม่มาร่วมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน


@โฟกัสเวียดนาม

สำหรับต่างประเทศ เวียดนาม เป็นตลาดที่สำคัญคาดการณ์ว่าจีดีพีประเทศปีนี้จะเติบโต 6.1-7.0% ภายใต้กำลังซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้นกว่าอดีตจึงมีโอกาสสร้างยอดขายให้เติบโตเร็วขึ้นและมีกำไรที่ดีขึ้น จากการขยายห้าง GO! Malls และ mini go! เพิ่มเติมในครึ่งหลังปีนี้ และมีการปรับปรุงและสร้างแบรนด์ใหม่ให้กับห้างเดิม ซึ่งในปีที่ผ่านมายอดขายในรูปเงินสกุลเงินดอง เวียดนาม เพิ่มขึ้่น 7% และมั่นใจว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นได้อีก


ส่วนอิตาลี คาดการณ์จะดีขึ้นเช่นกันหลังเพิ่งมีการปรับปรุงร้าน Milan Flagship ให้ทันสมัยซึ่งคาดจะแล้วเสร็จในอีก 2-3 ปีข้างหน้า พร้อมกับขยาย Beauty Hall ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี พื้นที่ทั้งหมด 3,000 ตารางเมตร มีแบรนด์เข้ามามากกว่า 300 แบรนด์ ซึ่งบริษัทจะพยายามสร้างรายได้ประจำให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจาก 2 ประเทศข้างต้นแล้วบริษัทยังไม่มีแผนรุกต่างประเทศอื่นใดเพิ่มเติมในขณะนี้


@การลงทุน

บริษัทกำหนดงบลงทุน หรือ CAPEX ปีนี้ราว 1.7-1.9 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับปรุง และขยายสาขา โดยการขยายสาขาใหม่ได้แก่ ไทวัสดุ 4 สาขา Tops 10 สาขา GO Wholesale 4 สาขา GO! Malls 2 สาขา GO! Hypers 2 สาขา และ mini go! 3 สาขา แต่ไม่มีแผนเพิ่มสาขา Central - Robinson

รวมทุกประเภทห้างคิดเป็นสาขาที่เพิ่ม 25 สาขา จากเดิมปีก่อนมีรวม 478 สาขา คาดใช้เงินลงทุนเฉพาะส่วนนี้ราว 9.5 พันล้านบาท ส่วนการลงทุนในหุ้น Grabs Holdings ที่จดทะเบียนในตลาด NASDAQ บริษัทอาจตัดสินใจพิจารณาขายออกในอนาคตนำเงินไปใช้ชำระคืนหนี้ ซึ่งยังไม่มีแผนในรายละเอียดในขณะนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง