รีเซต

อีลอน มัสก์เชื่อ Metaverse อาจไม่ใช่อนาคตแต่การเชื่อมต่อผ่านสมองโดย Neuralink นั้นดีกว่า

อีลอน มัสก์เชื่อ Metaverse อาจไม่ใช่อนาคตแต่การเชื่อมต่อผ่านสมองโดย Neuralink นั้นดีกว่า
TNN ช่อง16
29 ธันวาคม 2564 ( 17:07 )
277
อีลอน มัสก์เชื่อ Metaverse อาจไม่ใช่อนาคตแต่การเชื่อมต่อผ่านสมองโดย Neuralink นั้นดีกว่า

อีลอน มัสก์ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นโลกเสมือนจริง Metaverse อาจไม่ใช่เทคโนโลยีอนาคตอย่างแท้จริงและอาจเป็นเพียงการทำการตลาด ในขณะที่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับสมองของมนุษย์น่าจะเป็นเทคโนโลยีที่มีอนาคตมากกว่า ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอีลอน มัสก์ให้สัมภาษณ์กับรายการ The Babylon Bee รายการชื่อดังบนช่อง Youtube ในประเทศสหรัฐอเมริกา


Metaverse แนวคิดเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงที่กำลังกลายเป็นกระแสร้อนแรงภายหลังจากบริษัท Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อร่วมผลักดันโลกดิจิทัลเข้าสู่โลกเสมือนจริงและอาจเป็นการเชื่อมผู้ใช้งานทั่วโลกเข้าหากันรูปแบบใหม่ทดแทนการแสดงผลผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน 2 มิติ ซึ่งมีข้อจำกัดในด้านการแสดงผลที่หลากหลาย โดยผู้ใช้งานต้องสวมใส่แว่นตา VR เพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่โลกเสมือนจริง Metaverse ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งลักษณะของร่างกายรวมไปถึงสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวได้ตามความต้องการคล้ายการอยู่ในโลกเกมออนไลน์เสมือนจริง


อย่างไรก็ตามอีลอน มัสก์กลับให้ความเห็นเกี่ยวกับโลกเสมือนจริง Metaverse อาจไม่ใช่ประสบการณ์การใช้งานที่น่าสนใจและอาจเป็นเรื่องที่ดูเกินจริง เนื่องจากยังไม่พบว่ามีผู้ใช้คนไหนต้องการใส่แว่นตา VR เชื่อมต่อโลกเสมือนจริงอยู่ตลอดเวลาและอาจเป็นสิ่งที่น่าเบื่อถ้าหากต้องสวมใส่แว่นตา VR อยู่ตลอดเวลา อีลอน มัสก์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าสิ่งที่ดูเหมือนมีอนาคตในระยะยาวอาจเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับสมองของมนุษย์ในแบบที่บริษัท Neuralink กำลังวิจัยพัฒนา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงของการทดสอบการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับสมองของลิงเพื่อถ่ายโอนข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ โดยบริษัท Neuralink แห่งนี้มีก่อตั้งในปี 2016 และมีอีลอน มัสก์เป็นผู้ร่วมก่อตั้งคนสำคัญ


นอกจากนี้อีลอน มัสก์ยังตอบคำถามในประเด็น Web3 หรือ Web 3.0 แนวคิดอินเทอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจไปสู่ผู้ใช้งานว่าอาจเป็นเพียงแผนการตลาดที่เกิดขึ้นได้ยากและเขายังไม่เคยเห็น Web3 เกิดขึ้นจริง ซึ่งในประเด็นดังกล่าวได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นบน Twitter เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงแจ็ค ดอร์ซีย์อดีตผู้บริหารของ Twitter ได้ออกมาอธิบายโต้แย้งว่า Web3 จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการอินเทอร์เน็ตและก่อให้เกิดการทำสิ่งใหม่ ๆ เช่น การกระจายอำนาจทางการเงิน (Defi) การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ (NFTs)


ข้อมูลจาก nypost.com, futurism.com 

ภาพจาก twitter.com



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง