AKRชิงงานใหม่3พันล. ธุรกิจติดโซลาร์ยอดพุ่ง
#AKR #ทันหุ้น – AKR จับตาผลงานครึ่งหลังปี 2565 โดดเด่น คาดกฟน.-กฟภ. เตรียมทยอยเปิดประมูลงานหม้อแปลง มูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาท คาดหวังได้งานไม่น้อยกว่า 10-15% ฟุ้งธุรกิจ EPC เนื้อหอม อยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าโรงงานนับสิบราย อวดแบ็กล็อกแน่น 850ล้านบาท แจงเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าสำเพ็งระเบิดไม่ใช่ของ AKR
นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการบริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 มีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน และจากช่วงครึ่งปีแรก หลักๆ เป็นผลจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น การกลับมาดำเนินชีวิตใกล้เป็นปกติ ทำให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเริ่มประกาศให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศได้ สะท้อนต่องานประมูลต่างๆ ที่ชะลอตัวไปก่อนหน้านี้จะเริ่มกลับมาเปิดประมูลได้อีกครั้ง
*ลุยชิงงานใหม่
โดยในช่วงไตรมาส 3/2565 และ 4/2565 บริษัทคาดว่าทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จะกลับมาทยอยเปิดประมูลงานติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทคาดหวังโอกาสที่จะได้รับงานดังกล่าวเข้ามาไม่น้อยกว่า 10-15%ขณะที่งานติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าส่วนภาคเอกชนนั้น ปัจจุบันเริ่มมีงานโครงการจากกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามามากขึ้นแล้ว และคาดว่างบปี 2566ที่จะออกมาในช่วงไตรมาส 3-4/2565จะหนุนให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่จากลูกค้าผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้หลายประเทศกลับมาเปิดประเทศให้เดินทางได้อีกครั้ง เป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้บริษัทสามารถกลับเข้าไปเยี่ยมโรงงานฐานลูกค้าท้องถิ่นเดิมที่เคยเข้าไปรับงานก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ สปป.ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน รวมถึงออสเตรเลีย เพื่อเพิ่มโอกาสทั้งการขยายบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมหม้อแปลงไฟฟ้า (Service) และการเปลี่ยน หรือเพิ่มหม้อแปลงลูกใหม่ เป็นต้น เพราะช่วงโควิด-19ทำให้ไม่สามารถเข้าไปพบลูกค้าได้เลยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
*งานติดตั้งโซลาร์ยอดพุ่ง
ขณะที่งานรับเหมาออกแบบและติดตั้ง (EPC) แผงโซลาร์เซลล์ในปี 2565 นั้น ส่วนของงานโครงการจากหน่วยงานภาครัฐยังมีสัญญาณการชะลอตัวอยู่ สำหรับภาคเอกชนมีสัญญาณการกลับมาลงทุนที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทวางแผนเพิ่มโอกาสในการรับงานติดตั้งแผง Solar Rooftop ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมให้มากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาและเสนอราคามากกว่า 20-30 ราย แม้มูลค่าต่อโครงการอาจไม่สูงนัก แต่ก็เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยชดเชยงานส่วนของภาครัฐที่ชะลอตัวลงได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอทยอยส่งมอบ (Backlog) อยู่อีกกว่า 850 ล้านบาท แบ่งออกเป็นจากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า อยู่ที่มากกว่า 700 ล้านบาท โดยคาดว่ากว่า 80%จะสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ ส่วนที่เหลือราว 20% คาดจะรับรู้ในไตรมาส 1/2566 และ 2/2566 ตามลำดับ ขณะที่งาน EPC มี Backlog อยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปีนี้ สนับสนุนให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2565จะยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อนได้
*ผลงานครึ่งหลังเด้ง
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2565มั่นใจยอดขายจะมีการเติบโตที่ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน โดยในช่วง 3เดือนแรกของปีบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 354.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.20 ล้านบาท และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2565 จะมีทิศทางการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีไฟไหม้ย่านตลาดสำเพ็ง โดยมีกระแสข่าวว่าเกิดจากหม้อแปลงเก่าระเบิด ลุกลามไปยังอาคารพาณิชย์ ถนนราชวงศ์ และมีสื่อบางแห่งได้นำรูปหม้อแปลงไฟฟ้าแบรนด์ของบริษัทไปประกอบข่าว ทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียและความเสียหายต่อภาพลักษณ์อย่างมากนั้น บริษัทขอชี้แจงว่าหม้อแปลงที่ระเบิดดังกล่าวไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้าของเอกรัฐตามที่สื่อได้นำเสนอไป และปรากฎว่าเป็นหม้อแปลงของอีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งบริษัทไม่อยากให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจผิดต่อการนำเสนอที่คลาดเคลื่อนดังกล่าว