รีเซต

AKRติดโซลาร์รูฟฮิต ปูพรมงานหม้อแปลง

AKRติดโซลาร์รูฟฮิต ปูพรมงานหม้อแปลง
ทันหุ้น
3 กุมภาพันธ์ 2566 ( 07:19 )
32
AKRติดโซลาร์รูฟฮิต ปูพรมงานหม้อแปลง

AKR #ทันหุ้น - AKR ชูเปิดประเทศหนุนเศรษฐกิจคึก รัฐ-เอกชน เดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ ลั่นโซลาร์บนหลังคาโรงงานบูม งานเข้าไม่ขาด กางแผนเข้าชิงงาน กฟน.-กฟผ. รวมกว่า 3 พันล้านบาท คาดหวังงานไม่ต่ำกว่า 10% เติมพอร์ต ปักธงรายได้ปี 2566 แตะระดับ 2.3 พันล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 10-15%

 

นายดนุชา  น้อยใจบุญ กรรมการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เปิดปี 2566 มาจนถึงปัจจุบัน มีสัญญาณการลงทุนที่ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้รับงานหม้อแปลงไฟฟ้าและงานรับเหมาออกแบบและติดตั้ง (EPC) แผงโซลาร์เซลล์จากกลุ่มลูกค้าโรงงานเข้ามาจำนวนมาก ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ในส่วนของ EPC อยู่ที่ประมาณ 100-150 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ อีกทั้งยังมีโอกาสเห็นการเซ็นสัญญารับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

 

@ชิงงานใหม่

 

บริษัทยังมีความสนใจเข้าร่วมเสนอราคากับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) อย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าโครงการการลงทุนของทาง กฟภ. และกฟน. ในปี 2566 จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท และ 1,500 ล้านบาท ตามลำดับ ในเบื้องต้นบริษัทคาดหวังว่าจะมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเติมพอร์ตไม่น้อยกว่า 10-15% ของมูลค่างานที่ออกมาในปีนี้ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา

 

พร้อมกันนี้ จากการกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มที่แล้วในปี 2566 ยังส่งอานิสงส์เชิงบวกต่อธุรกิจบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมหม้อแปลงไฟฟ้า (Service) ซึ่งจากอัตราการเข้าพักและยอดจองที่พักล่วงหน้า (Booking) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าโรงแรม รวมถึงจากการที่ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าไทยมาทำธุรกิจได้สะดวกขึ้นมาก มีผลให้โครงการคอนโดมิเนียมให้ความสำคัญในการดูและและซ่อมบำรุงหม้อแปลงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจ Service ในปีนี้ไว้ที่ 20% จากปีก่อน

 

@ขยายฐานต่างประเทศ

 

ประกอบกับจากการที่หลายประเทศกลับมาเปิดประเทศให้เดินทางได้อีกครั้ง มองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้บริษัทสามารถเดินทางกลับไปเยี่ยมโรงงานฐานลูกค้าท้องถิ่นเดิมที่เคยเข้าไปรับงานก่อนหน้านี้ได้ โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น สปป.ลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, บรูไน และออสเตรเลีย รวมถึงสามารถเข้าไปขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในตลาดกลุ่มนี้ได้เพิ่มเติม อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่ายอดขายจากตลาดออสเตรเลียในปี 2566 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน

 

**รายได้โต 20%

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายของรายได้รวมไว้ที่แตะระดับไม่ต่ำกว่า 2,200-2,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-20% จากปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอทยอยส่งมอบ (Backlog) ในส่วนของธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าแล้วมากกว่า 300-400 ล้านบาท ที่คาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้เข้ามาภายในปีนี้ได้ทั้งหมดตามกำหนด

 

"ภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2566 จะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากการคลายล็อกดาวน์และกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ทำให้การลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า และโรงแรม กลับมามีการลงทุนโครงการใหม่ๆ ทำให้เรามีโอกาสที่จะได้รับคำสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาอยู่หลายราย รวมถึงงานโครงการภาครัฐยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง เราเองก็มีความสนใจเข้าประมูลงานร่วมด้วยเช่นเดียวกัน" นายดนุชา กล่าว

 

ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกระเบียบว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ซึ่งในส่วนของพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ที่จะรับซื้อไฟฟ้ารวม 2,368 เมกะวัตต์  ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการยื่นเอกสารเข้าร่วมประกวดราคาไปแล้ว และอยู่ระหว่างรอผล

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง