รีเซต

เศรษฐกิจไทยยังโคม่า!คลังคาดจะติดลบ -8.5%

เศรษฐกิจไทยยังโคม่า!คลังคาดจะติดลบ -8.5%
TNN ช่อง16
30 กรกฎาคม 2563 ( 13:27 )
58

วันนี้ (30 ก.ค.63)นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมิถุนายน 2563 พบว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2563 ยังมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น หลังจากมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลให้อุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนในหมวดการก่อสร้างปรับตัวดีขึ้น ด้านอุปสงค์ภายนอกประเทศที่สะท้อนผ่านการส่งออกสินค้าและบริการยังคงชะลอตัว สอดคล้องกับด้านอุปทานที่ชะลอตัวลงในภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยว 

ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะหดตัวที่ -8.5% ต่อปี  จากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวที่ 2.4% ต่อปี โดยมีสาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักหดตัวลง  คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะหดตัวที่ -11.0% ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยจะหดตัวที่ -82.9%

นอกจากนี้ การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะหดตัวที่ -2.6% และ -12.6%  ตามลำดับ สอดคล้องกับทิศทางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การโอนงบประมาณตามพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2563 และพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 โดยมีกรอบวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท โดยคาดว่าการบริโภคภาครัฐจะขยายตัวที่ 4.3%  และการลงทุนภาครัฐจะขยายตัวที่ 9.7% 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดกการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังภาคธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น ประกอบกับผลของมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนาของรัฐบาล ระยะที่ 1-3 และมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จะช่วยสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชน รักษาระดับการจ้างงาน และสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนให้เกิดการหมุนเวียนกิจกรรมเศรษฐกิจภายในประเทศต่อไป ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 และจะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดลบน้อยลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2563

อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อจากนี้ไปปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศของประเทศต่าง ๆ ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คลี่คลายลง ซึ่งจะมีผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศในช่วงที่เหลือของปี 2563 และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2563

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 เราไม่ทิ้งกัน คลังจ่ายเงินครบแล้ว 15.1 ล้านคน

 คลัง คาดเปิดลงทะเบียนชิงที่พัก "เที่ยวปันสุข" 1 ก.ค.นี้

 คลังเคลียร์ชัด! บัญชีหยุดเคลื่อนไหวเกิน10ปี ถูกยึดเงินฝากหรือไม่

 "ปรีดี ดาวฉาย" ลาออก ธ.กสิกรไทย จ่อนั่งขุนคลังแทน "อุตตม" 


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง