AOT โชว์แผนเซ็กซี่ PSC เพิ่มเกิน 200 บ.

#AOT #ทันหุ้น – แม่ทัพ AOT ประกาศแผนเซ็กซี่ ดึงดูดต่างชาติ ปั้นผลงานโตโดด เดินหน้าเน้นรายได้การบินเพิ่ม PSC เที่ยวบินต่างชาติ 200 บาท ชี้ยังต่ำกว่าสิงคโปร์ ลุยเพิ่มรายได้นอนแอร์โรว์นอกเหนือจาก KING POWER พร้อมลดต้นทุนและลงทุนอย่างฉลาดเพิ่มประสิทธิภาพ ชูสล็อตหน้าหนาวเพิ่มสูง 17% ด้านคมนาคมเห็นด้วยขึ้น PSC คาดสรุปสิ้นปี ปรับขึ้นได้เมษายนนี้

            นางสาวปวีณา  จริยฐิติพงศ์  ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า  AOT ยอมรับว่าบริษัท ยังไม่ “เซ็กซี่” พอ สำหรับนักลงทุน เนื่องจากมีอัตราพีอีที่สูงกว่า ขณะที่การปันผลไม่สูงมาก ดังนั้นกลยุทธ์ที่ใช้จะโฟกัสไปที่การเพิ่มกำไรและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น เพื่อที่จะทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดี ปันผลสูง และทำให้พี/อีต่ำลง

            “ปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติถือหุ้น AOT ไม่มากเท่าที่ควร ต่างชาติจะเข้ามาสนใจ AOT ได้อย่างไร ถ้า P/E ยังสูงกว่าประเทศอื่นๆ อยู่ AOT ต้องสร้างความ Sexy  เพราะที่เป็นคำตอบและจะทำให้นักลงทุนชาวไทยและต่างชาติสนใจ AOT คือ ปันผลและกำไร การทำให้ AOT “เซ็กซี่” ไม่ใช่เพียงแค่การแต่งตัวให้ดูดีภายนอก แต่คือการแก้ไขปัญหาและสร้างความแข็งแกร่ง ภายใน โดยมีเป้าหมายหลักคือเพิ่มกำไร”

@ สร้าง AOT เซ็กซี่

ส่วนการที่จะทำให้เซ็กซี่ นั้น ก็คือ การเพิ่มรายได้โดยเฉพาะด้านการบิน ต้องเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการปรับขึ้น PSC  ซึ่งไม่ได้ปรับขึ้นมาเป็นเวลา 19 ปีแล้ว โดยได้ AOT เสนอขอปรับขึ้น PSC ไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในเดือนตุลาคม ในตัวเลขที่มากกว่า 200 บาท สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ ปัจจุบันค่า PSC ของไทยต่ำกว่าสิงคโปร์มาก ซึ่งสิงคโปร์เก็บ 1,400 กว่าบาท ขณะที่เนื่องจาก 70% ของผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติ นอกจากนี้ AOT ยังได้ขอให้มีการคำนวณและทบทวนค่าธรรมเนียมภายใต้สูตรที่ถูกต้องทุก 3-5 ปี

            ด้านรายได้ที่ไม่ใช่ด้านการบิน (Non-Aero) นอกเหนือจากการจัดการสัญญา King Power แล้ว AOT ต้องหาแหล่งรายได้เพิ่มเติมจากพื้นที่ว่างหรือกิจการอื่นๆ ที่ยังไม่ได้มีการจัดเก็บหรือทำธุรกิจ

@ เพิ่มประสิทธิภาพ

            พร้อมกันนี้ยังจะลดรายจ่าย ซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดคือ ค่าบุคลากร AOT จะลดรายจ่ายโดยการบริหารจัดการบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพและวัดผลการดำเนินงานใหม่ เช่น จำนวนผู้โดยสารต่อรายได้ต่อพนักงาน รวมถึงต้องบริหารจัดการให้การใช้ Facility ต่างๆ มีความสมดุลและคุ้มค่า ขณะเดียวกันยังต้องลงทุนอย่างชาญฉลาด หรือ  Smart Investment การลงทุนใหม่ในอนาคตจะต้อง สมเหตุสมผล และสร้างมูลค่าอย่างแท้จริง ตัวอย่าง การพัฒนาอาคารผู้โดยสารทิศใต้ จะแบ่งเป็นหลายเฟส เพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณผู้โดยสารที่มาใช้งานจริง และต้องลงทุนในการรักษา คุณภาพของการบริการ (Quality of Service) ตลอดจนการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนการปฏิบัติงาน

@ Slot ฤดูหนาวเพิ่ม 17%

            ด้านสถานการณ์ของ Slot การบินในช่วงฤดูหนาว ตุลาคม-มีนาคม ถือว่าค่อนข้างดี โดยมีการจองเพิ่มขึ้นถึง 17% แต่ก็ไม่ควรวางใจกับตัวเลข 17% นี้มากเกินไป เพราะต้องติดตามว่าตัวเลขนี้จะลดลงจากการยกเลิกการจองภายหลังหรือไม่ การฟื้นตัวของ Slot ปัจจุบันส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยาย รันเวย์ 3 ขณะเดียวกันสายการบินต่างๆ ได้ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี ในการเส้นทางบิน จัดสรรเครื่องบิน ทำการตลาด และการขายแล้ว จึงทำให้มีการจอง Slot มากขึ้น มั่นใจว่า จำนวนการใช้ Slot จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในปีหน้า

            “การบริหารจัดการ Slot ที่ถูกยกเลิกเป็นความท้าทายสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันการยกเลิกต้องทำก่อน 4 สัปดาห์ ตามกฎของ IATA ซึ่งกระชั้นชิดไป จึงมีการให้สิ่งจูงใจเพิ่มเติม หากสายการบินแจ้งยกเลิก Slot เร็วกว่าที่กำหนด”

@ บอร์ดประชุมกรณี King Power

            นางสาวปวีณา กล่าวด้วยว่า AOT ได้ดำเนินการศึกษาผลกระทบและทางเลือกเกี่ยวกับสัญญา King Power เสร็จสิ้นแล้ว เบื้องต้นมีประมาณ 8 ทางเลือก โดยคาดว่าจะนำทางเลือกเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ AOT (บอร์ด) ในวันนี้ (29 ต.ค.)  ซึ่ง AOT จะเลือกแนวทางที่ AOT ได้รับผลประโยชน์สูงสุด และผลประโยชน์ที่ได้รับจะต้อง ไม่ต่ำกว่าผู้เสนอราคารายที่สองซึ่งเสนอที่ 8,000 ล้านบาท เทียบกับ King Power ที่ 15,000 ล้านบาท

@ คมนาคมเห็นด้วยขึ้น PSC

นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แสดงทรรศนะส่วนตัวต่อกรณีที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ยื่นขอปรับขึ้นค่าบริการ PSC ขึ้นว่า ปัจจุบันค่า PSC ของไทยถูกกว่าท่าอากาศยานนานชาติในหลายประเทศ อีกทั้งไม่เคยปรับขึ้นมาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นหากจะปรับขึ้นก็มีเหตุผลอันสมควร  เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.)  

            ด้าน พล.อ.อ. มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ระบุว่า ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการปรับขึ้นค่า PSC โดยจะต้องมองไปข้างหน้าว่า AOT ต้องลงทุนอีกมาก น้อยแค่ไหน ซึ่งค่า PSC ที่ไทยเก็บกับเที่ยวบินต่างประเทศนั้นถูกมาก 730 บาท เทียบสิงคโปร์เก็บที่ 1400 บาท ดังนั้นจะปรับขึ้น 200 บาท หรือ 500 บาท ก็ยังไม่เสียเปรียบ โดยจะคาดว่าจะนำเข้าสู่วาระการประชุมภายใน 1 -2 สัปดาห์นี้ ก่อนจะนำเสนอตามขั้นตอน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้คาดว่าจะสามารถปรับขึ้นค่า PSC อย่างเป็นรูปธรรมได้ภายในเดือนเมษายน 2569