NDR ทดลองผลิตชีวมวล ลุ้นบรรลุเจรจาระบบ 5G

#NDR #ทันหุ้น - NDR กดปุ่มทดลองเดินเครื่องผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนแผนรุกธุรกิจทดสอบอุปกรณ์ระบบ 5G อยู่ระหว่างรอพาร์ตเนอร์เจรจากับลูกค้า ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังยังสดใส ชูเป้ารายได้ทั้งปี 2568 แตะ 950 ล้านบาท
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ระหว่างปีที่ผ่านมาบริษัทกำหนดงบลงทุนราว 100 ล้านบาท สำหรับลงทุนในเครื่องจักรธุรกิจชีวมวลรองรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ
@รายได้สนับสนุน
ความคืบหน้าล่าสุด จะเริ่มทดลองเครื่องจักรที่ติดตั้งแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ ก่อนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายต่อไป โดยคาดอนาคตจะเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% ของรายได้รวม และโครงการชีวมวลจะทำให้บริษัทกลายเป็นโรงงานผลิตยางมอเตอร์ไซค์แห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้พลังงานสะอาดเกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ บริษัทย่อยของ NDR คือ บริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็น Testing Center ให้กับอุปกรณ์ระบบ 5G อยู่ระหว่างรอผลการเจรจาของหุ้นส่วนธุรกิจ กับผู้สนใจจะเข้ามาเป็นลูกค้า ซึ่งหากสำเร็จจะเป็นการเพิ่มฐานรายได้ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงโฟกัสการเป็นผู้ผลิตยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D. Rubberเป็นหลักต่อไป
@ทิศทางครึ่งปีหลัง
สำหรับดีมานด์ใช้ยางในประเทศ และต่างประเทศในช่วงครึ่้งหลังปี 2568 ประเมินว่าทรงตัวเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ขณะที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลปัจจุบันเร่งประกาศออกมา คาดส่งผลบวกทางอ้อมกับกำลังซื้อผู้บริโภค แต่ยังไม่มีนโยบายใดในตอนนี้ที่ส่งผลดีตรงกับสินค้ายางล้อของบริษัท
ทว่าด้วยกิจกรรมการตลาดต่างๆ รวมถึงการบริหารจัดการในองค์รวมจะยังทำให้ผลประกอบการโดยรวมอยู่ในทิศทางที่ดีต่อไป สนับสนุนรายได้รวมปี 2568 ให้อยู่ที่ราว 950 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 921.98 ล้านบาท
@ การตลาดแมส
นายชัยสิทธิ์ ยังระบุก่อนหน้านี้ว่า จากช่วงกลางปีที่ผ่านมา บริษัทใช้แนวคิดการตลาดดึง Key Opinion Leader หรือ KOL โดยเริ่มจากแคมเปญ Pround to be Intrend เปิดตัว “ลำไย ไหทองคำ” ขึ้นแท่น Brand Ambassador พร้อมจัดทำมิวสิกวิดีโอเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ส่งผลดีขยายการรับรู้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง และส่งผลต่อเนื่องไปยังตัวแทนจำหน่ายในประเทศขายสินค้าได้ง่ายขึ้น
ส่วนตลาดต่างประเทศประเทศก็มีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน ทั้งประเทศอังกฤษ และประเทศญี่ปุ่น ขณะที่แผนการเจาะตลาดเพิ่มเติมไปยังสหรัฐอเมริกาก็อยู่ในช่วงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ซึ่งน่าจะเริ่มทำตลาดจริงจังได้ในปี 2569 โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากในประเทศและต่างประเทศในระดับทัดเทียมกัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
