รีเซต

CBG มีทีเด็ดบุกจีน เดินเครื่องกัมพูชา

CBG มีทีเด็ดบุกจีน เดินเครื่องกัมพูชา
ทันหุ้น
29 ตุลาคม 2568 ( 02:40 )
12

นายร่มธรรม  เสถียรธรรมะ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทมองตลาดต่างประเทศจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโต โดยเฉพาะ กัมพูชา ซึ่งบริษัทกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และคาดว่าหลังการเจรจาความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย–กัมพูชาที่ผ่านมา จะช่วยให้บรรยากาศการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น

ขณะเดียวกัน โครงการโรงงานแห่งใหม่ในกัมพูชา เดินหน้าตามแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดดำเนินการภายใน 1 เดือนข้างหน้า โรงงานนี้จะช่วยลดต้นทุนด้านขนส่งและเพิ่มความคล่องตัวของซัพพลายเชน รองรับการฟื้นตัวของตลาดในภูมิภาค

@ บุกจีนร่วมพันธมิตร

นอกจากนี้ CBG ยังเตรียมขยายตลาดใหม่ในจีนเพิ่มขึ้น โดยเป็นการเดินหน้าร่วมกับพันธมิตร พร้อมกับศึกษาตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นตลาดศักยภาพที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อพันธมิตรได้ขณะนี้ แต่ยืนยันเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปี 2569

ขณะที่ในประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างทดลองผลิต เบียร์ชิงเต่าในประเทศไทย เพื่อวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเสริมพอร์ตสินค้าและยกระดับแบรนด์ให้ครอบคลุมมากขึ้น

CBG ยังเตรียมเปิดตัว เครื่องดื่มพลังงานรุ่นใหม่ ภายใต้กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังที่มีความแตกต่างจากตัวคาราบาวแดง เพื่อตอบรับเทรนด์สุขภาพและผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาความแตกต่างของรสชาติและคุณประโยชน์ โดยบริษัทมั่นใจว่าสินค้าใหม่นี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญของรายได้ในปีหน้า

@ รักษาอัตรากำไร

ด้าน ต้นทุนการผลิต ปัจจุบันอยู่ในระดับทรงตัว หลังจากราคาน้ำตาลและอลูมิเนียมปรับลดลงในช่วงก่อนหน้า ช่วยให้สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้อย่างมั่นคง พร้อมเดินหน้าบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

@ เริ่มสู่จังหวะฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ของ CBG จะอยู่ในระดับต่ำสุดของปีที่ประมาณ 609 ล้านบาท ลดลง 18% จากปีก่อน และ 24% จากไตรมาสก่อน จากแรงกดดันด้านต้นทุนและยอดขายต่างประเทศที่ชะลอ อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/2568 ตามแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 2,831 ล้านบาท ทรงตัว YoY และ ประเมินกำไรสุทธิปี 2569 ที่ 3,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY

นักวิเคราะห์มองว่า CBG จะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานและต่างจังหวัด ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายปี 2569 เหลือ 62 บาท มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และเริ่มเข้าสู่จังหวะฟื้นตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง