BAFS ไฮซีซันเติมน้ำมันพุ่ง  ท่องเที่ยว-ธุรกิจการบินคึก

#BAFS #ทันหุ้น - BAFS ส่งซิกไตรมาส 3/2568 สัญญาณฟื้นตัวจากปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานเติบโตขึ้น 4% YoY และการขนส่งน้ำมันทางท่อในไตรมาสขยายตัว 2% YoY อีกทั้งธุรกิจกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซันท่องเที่ยวสิ้นปี และเริ่มมีการปรับตารางการบิน คงเป้าหมายการเติมน้ำมันอากาศยานทั้งปี 2568 ที่ 5,400 ล้านลิตร และได้ขยับเป้าหมายการขนส่งน้ำมันทางท่อ ขึ้นมาเป็น 1,340 ล้านลิตร  หนุนผลงานทั้งปีตามเป้า

นายจักรสนิท  กฤษสอาดใจ  รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงินกลุ่มบริษัท บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ผู้ให้บริการระบบจัดเก็บ และเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2568 เห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น โดยปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานเติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ส่งผลให้ 9 เดือนแรกปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานเติบโตขึ้น 7.6% YoY ทำให้ภาพรวมยังคงฟื้นตัวขึ้นอยู่ แม้ว่านักท่องเที่ยวจากจีนชะลอตัวบ้าง

@ยอดเติมน้ำมันต.ค.ล้น

โดยปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในไตรมาส 3/2568 กลับมาแล้วประมาณ 84% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากการกลับมาของการบินไทยที่แข็งแรงขึ้นเป็นปัจจัยช่วยหนุน ทั้งการวางเส้นทางเพิ่มและนำเครื่องบินกลับเข้าประจำการ

ประกอบกับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนในช่วง Golden Week ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน - ตุลาคม 2568 ทำให้ต้นเดือนตุลาคมเริ่มเห็นปริมาณการเติมน้ำมันรวมถึงปริมาณการบินที่เพิ่มมากขึ้น จากปกติปริมาณการเติมน้ำมันในเดือนตุลาคมจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14.5 ล้านลิตรต่อวัน

อีกทั้งยังมีการปรับตารางการบินเป็นไปตามรูปแบบของธุรกิจการบิน ซึ่งทำปีละ 2 ครั้ง คือ Summer และ Winter โดยซีซัน Winter จะเริ่มประมาณเดือนตุลาคม ทำให้ไตรมาส 4/2568 จะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน จากการวางแผนท่องเที่ยวช่วงสิ้นปีใหม่

@ดีมานด์หนุนต่อเนื่อง

ในส่วนธุรกิจการขนส่งน้ำมันทางท่อในไตรมาส 3/2568 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 2% YoY โดยมีปริมาณการขนส่งน้ำมันขึ้นภาคเหนืออยู่ที่ 321 ล้านลิตร ส่งผลให้ 9 เดือนแรกการขนส่งน้ำมันทางท่อเติบโตขึ้น 15% YoY มีปริมาณการขนส่งน้ำมันขึ้น

โดยการเติบโตของปริมาณการขนส่งทางท่อ มาจากการที่ลูกค้าเปลี่ยนวิธีการโลจิสติกส์จากการใช้รถบรรทุก มาเป็นใช้ท่อมากขึ้น ซึ่งการขนส่งทางท่อมีประสิทธิภาพมากกว่า ช่วยลดการสูญเสีย ลดอุบัติเหตุ และยังสามารถได้คาร์บอนเครดิตอีก ทั้งนี้น้ำมันที่ใช้ในภาคเหนือส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม และประมาณ 70% เป็นน้ำมันดีเซล

อีกทั้งยังมีจุดเด่น คือ ตลาดนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยี EV เนื่องจากรถยนต์ EV ยังไม่ได้เข้าถึงพื้นที่ต่างจังหวัดมากนัก

ทั้งนี้ยังมีโครงการ Link Line ที่เชื่อมระบบท่อขนส่งน้ำมันระหว่าง บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด หรือ BPT ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทลูก กับบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (Thappline) ทำให้สามารถรับน้ำมันจากภาคตะวันออกขึ้นภาคเหนือได้โดยตรง ซึ่งปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้าไปแล้วถึง 50% เป็นไปตามแผนที่บริษัทกำหนดไว้  โดยตั้งเป้าหมายการเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ ภายในสิ้นปี 2569 หลังจากการเชื่อมท่อเสร็จสิ้นจะทำให้มีปริมาณน้ำมันที่ไหลผ่านท่อเกิน 2,000 ล้านลิตรต่อปี และได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 60-80%

ดังนั้นภาพรวมผลประกอบการในปี 2568 บริษัทจึงยังคงเป้าหมายเดิมสำหรับทั้งการเติมน้ำมันอากาศยานไว้ที่ 5,400 ล้านลิตร และได้ขยับเป้าหมายการขนส่งน้ำมันทางท่อ ขึ้นมาเป็น 1,340 ล้านลิตร จากเดิมที่ตั้งไว้ 1,200-1,300 ล้านลิตร

@ปิดดีลรับจ้างประกอบรถ

ด้านธุรกิจการออกแบบ พัฒนา และผลิตยานพาหนะภาคพื้นสำหรับท่าอากาศยาน ภายใต้บริษัทลูก บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด (BI) ซึ่งในไตรมาส 3/2568 ได้ส่งมอบรถเติมน้ำมันอากาศยานให้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 5 คัน รับรู้รายได้ไปแล้ว 33 ล้านบาท

ขณะที่ยังมีงานประกอบรถเติมน้ำมันอากาศยานให้ทาง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ซึ่งงานในมือ (Backlog) ประมาณ 15 คัน หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท อีกทั้งยังชนะการประมาณงาน OR สำหรับงานจ้างประกอบรถเติมน้ำมันอากาศยานมูลค่าราว 27 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าส่งมอบรถได้ประมาณ 6-8 เดือน หลังจากได้รับงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว