MGT เดินเกมดีล M&A ปักธงเมกะเทรนด์โลก

#MGT #ทันหุ้น – MGT ปักธงรุก “เมกะเทรนด์โลก” พร้อมลุย M&A เคมีภัณฑ์อาหาร ไบโอเทค ตั้งเป้าปี 2569 โตที่ระดับ 20% มั่นใจไทยขึ้นแท่นฮับอาเซียนด้านเคมีเฉพาะทาง เดินหน้าปูพรม New S-Curve ดันบริษัทก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีเต็มรูปแบบใน 3 ปี

               ดร.วิทยา  อินาลา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGT เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจเคมีในปัจจุบันและอนาคตจะถูกขับเคลื่อนด้วย ดิจิทัล, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์สำคัญของโลก โดยบริษัทได้เตรียมระบบหลังบ้านและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันภายใน 1–3 ปี ข้างหน้า รวมถึงการนำ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกกระบวนการ

เข้าเทรนด์ ESG

               บริษัทเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายด้าน ESG คาร์บอน และสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าปรับมาตรฐานเข้าสู่ระดับสากลภายใน 3 ปี อีกทั้งยังเพิ่มบทบาทการเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้า เนื่องจากซัพพลายเชนเคมีภัณฑ์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องการ โซลูชันเฉพาะทาง สินค้าทางเลือกใหม่ และต้นทุนที่ไม่เพิ่มขึ้น ซึ่ง MGT สามารถตอบโจทย์ได้ครบทั้งระบบ

               ด้านเทรนด์ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและอิเล็กทรอนิกส์ และประเทศไทยกำลังก้าวขึ้นเป็น “ฮับของ PCV” และ MGT มีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมป้อนตลาด โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่บริษัทเตรียมขยายตลาดเชิงลึกมากขึ้น

               สำหรับ ดาต้าเซ็นเตอร์ มองว่าไทยมีศักยภาพก้าวสู่การเป็นฮับอาเซียน ส่งผลให้ความต้องการสารเคมีเฉพาะทางเพิ่มสูงขึ้น บริษัทจึงได้วางแผนรองรับล่วงหน้า 2–3 ปี

เดินหน้าดีล M&A

               ขณะเดียวกัน เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ เคมีอุตสาหกรรม และเคมีภัณฑ์ความงาม ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนมองหาการลงทุนใหม่ ทั้งการร่วมทุนและการควบรวมกิจการ (M&A) ครอบคลุมตั้งแต่เคมีอาหาร ไบโอเทค จนถึงเคมีความงาม โดยตั้งเป้าถือหุ้นไม่เกิน 65% ในแต่ละดีล เพื่อบริหารความเสี่ยงและสร้างการเติบโตระยะยาว

               ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าอีก 3 ปีข้างหน้า MGT จะก้าวสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีและ AI พร้อมต่อยอดสู่ New S-Curve เพื่อยกระดับบริษัทสู่มาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเคมี

                ปี 2569 บริษัทตั้งเป้าเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐ แม้เศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมาเผชิญความท้าทายหลายด้าน แต่บริษัทมองว่า “ทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ” และปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนา โปรเจ็กต์ใหม่ร่วมกับลูกค้า ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันเฉพาะทาง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่การเติบโตในปี 2569