SCGP ยูโอบีฯ คาดกำไร Q3/68 ที่ 982 ลบ. จับตาดีล M&P ใน Q4

#SCGP #ทันหุ้น-บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) คาดว่าบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 982 ล้านบาท ลดลง 3% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 70% YoY โดยกำไรที่ลดลง QoQ จากราคาขายปรับลดลง เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น และผลกระทบจากอุปทานใหม่ในอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้น แต่ถูกลดทอนผลกระทบลงบางส่วน
โดยยอดขายที่คาดว่าจะทรงตัว QoQ จากการรับรู้ยอดขายของ Duy Tan PlasticsManufacturing Corporation (Duy Tan) ในเวียดนาม โดยทาง SCGP เข้ำซื้อหุ้นส่วนเพิ่มอีก 30% เมื่อ ก.ค. 2568 ทำให้ผลกระทบจากโลว์ซีซั่นในไทยและภูมิภาค , ต้นทุนผลิตที่ลดลง ทั้งจากราคา Recycle paper (RCP) และราคาถ่านหินที่ลดง ขณะที่ค่า Freight ทรงตัว
QoQ ทำให้ SCGP มี profitability ที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/68 และต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง QoQ จากการปรับโครงสร้างหนี้ของ Fajar คาดว่าจะเห็นภาระดอกเบี้ยจ่ายรวมของ SCGP ลดลง 80 ล้านบาทต่อไตรมาส
ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 คาดว่าจะฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY จากยอดขายในเวียดนามและอินโดนีเซียที่ปรับเพิ่มขึ้น ด้านต้นทุนผลิตยังจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับ SCGP ในช่วงไตรมาส 4/68 โดยเฉพาะต้นทุน Recycle paper ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จากแนวโน้มของราคาท่ปรับลดลงต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา รวมไปถึงต้นทุนถ่านหินที่ยังอยู่ในระดับ ทำให้คาดว่า SCGP จะยังมี profitability ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง
นอกจากนี้ SCGP จะมี M&P อีก 1 ดีลในไตรมาส 4/68 ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเห็นธุรกิจ Downstream ในอินโดนีเซีย เพื่อสร้าง Captive demand ให้ธุรกิจ upstream และเสริมศักยภาพการเติบโตของ Fajar ในระยะยาว
ฝ่ายวิจัยยูโอบีฯ แนะนำซื้อหุ้น SCGP ให้ราคาเป้าหมายปี 2569 อยู่ที่ 26 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
