TOA มาร์จิ้นสูงรอบ 9 ปีลุ้นรีโนเวตรับ Airbnb

#TOA #ทันหุ้น - กูรูชี้ TOA จะมีมาร์จิ้นครึ่งปีหลังสูงแตะ 38% ใกล้เคียงระดับสูงสุดรอบ 9 ปี ชูภาพต้นทุนลดทั้งที่เกี่ยวพันกับน้ำมัน และไททาเนียม ไดออกไซด์ ซึ่งต้นทุนหลัก ยังมีแนวโน้มลง ขณะที่รายได้ต่างประเทศโตดี ส่วนไทยลุ้นกฎหมายเอื้อการพักรายวันหนุน ชี้หากมาจริงตลาดรีโนเวทบ้านโตแรง TOA รับเพิ่ม 600 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ตลอดช่วงที่เหลือของปี 2568 จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลง ทั้งต้นทุนปิโตรเคมีที่ผูกโยงกับราคาน้ำมันดิบ (Oil Linked) และราคาไททาเนียม ไดออกไซด์ (TiO2) ซึ่งคิดเป็นต้นทุน 18% และ 20% ตามลำดับ เป็นวัตถุดิบสำคัญและสต๊อกเพียง 1-3 เดือน รวมถึงเงินบาทที่แข็งค่า ปัจจัยเหล่านี้อยู่ในจุดที่เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทอย่างมาก ประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จะอยู่ที่ระดับ 38.0% ซึ่งใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี
โดย 1. ราคาน้ำมัน (Oil) ไตรมาส 3/2568 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 68 ดอลลาร์ ลดลง 13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Y-Y) และเพิ่มขึ้น 2% เทียบกับไตรมาสก่อน Q-Q
2. ราคา Tio2 จีน ซึ่งบริษัทใช้ราว 33-50% ของทั้งหมดอยู่ที่ 1899 เหรียญ/ตัน ลดลง 14% Y-Y, และลดลง 8% Q-Q จากสถานการณ์โอเวอร์ซัพพลาย อยู่ระดับปานกลาง จากผู้ประกอบการจีนเพิ่มกำลังการผลิตช่วง
2568-2569 ราว 1.6 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากปัจจุบัน 4.8 ล้านตัน ส่วนราคา Tio2 สหรัฐอเมริกา อิงจาก เคมัวร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิต Tio2 ใหญ่สุดของโลก มีการประเมินราคาช่วงไตรมาส 3/2568 ยังลดลง Q-Q
3. เงินบาทมีการแข็งค่า 25% ของต้นทุน จากสมมติฐานที่กำหนดได้ 32 บาทต่อดอลลาร์ โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่ามีผลต่อกำไรปี 2568 เพิ่ม 2.3%
@ ต่างประเทศโตดี
ด้านรายได้ครึ่งปีหลัง 2568 ประเมินทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม คาดทรงตัวหรือเพิ่มเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก (17% ของรายได้)
โดยเฉพาะพม่าได้ประโยชน์จากทั้งแผ่นดินไหวและการมีโรงงานที่นั่น ทำให้สามารถหาสินค้าได้ต่อเนื่อง รวมถึง เวียดนามที่เริ่มฟื้นตัว
@บ้านมือสองเติบโตหนุน
ขณะที่ ตลาดไทย คาดลดเล็กน้อย แต่โดยรวมทำได้ดีกว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ คาดจากฐานลูกค้าหลักคือบ้านเก่าคิดเป็น 70-80% ของทั้งหมด ยังมีดีมานด์จากแนวโน้มผู้บริโภคนิยมรีโนเวตบ้าน/ซื้อมือสอง มากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจชะลอ
โดยอิงศูนย์ข้อมูลอสังหาตัวเลขโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส 2/2568 บ้านมือสอง ลดลง 11% เทียบกับบ้านใหม่ที่ลดลง 16%
@ ลุ้นกม.เอื้อรีโนเวตบ้าน
นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ดีหากรัฐบาลมีการให้สถานที่พักขนาดเล็ก (คอนโด, บ้าน) สามารถปล่อยเช่ารายวันได้ หรือ กฎหมาย Airbnb-Friendly ตอบโจทย์เศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน
โดยประเด็นดังกล่าวหากเกิดขึ้นจริง ช่วยกระตุ้นภาคอสังหา โดยเฉพาะการรีโนเวตบ้าน-คอนโด เป็นบวกต่อฐานลูกค้าหลัก (บ้านเก่า)
ขณะที่ บ้านใหม่งานโครงการ บริษัทมีฐานลูกค้าทั้งกลุ่ม SIRI, LH, Fraser, Q-HOUSE, PSH, ANAN, ORI, LPN ฯลฯ
ทั้งนี้อิงงานวิจัย Airbnb ประเมิน Airbnb สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไทย 7.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นทางตรง 3 หมื่นล้านบาท และทางอ้อม (ซ่อมแซมบ้าน) 4.2 หมื่นล้านบาท
โดยอิงงานสีคิดเป็นมูลค่าราว 3% ของงานซ่อมแซมบ้าน และมาร์เก็ตแชร์ของ TOA ที่สูง 50% จะได้มูลค่าราว 600 ล้านบาท คิดเป็นอัพไซด์ต่อรายได้ราว 3%
@ผลงานดี-พีอี/ 11 เท่า
มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการตลอดช่วงที่เหลือของปี จากต้นทุนปรับลง โดยประเมินกำไรปกติครึ่งปีหลัง 2568 เติบโต 10-20% และกำไรปกติปี 2568 ที่ 2.7 พันล้ายบาท เพิ่มขึ้น 17% หากรวมผลการซื้อหุ้นคืน 2 รอบรวม 90.4 ล้านหุ้น จะกำให้กำไรต่อหุ้น EPS เพิ่มอีก 5%
แนะนำซื้อให้ราคาเป้าหมาย 19.8 บาท อิง PER 15 เท่า เป็นบริษัทที่เป็นผู้นำโดยมีมาร์เก็ตแชร์ราว 50% ในไทย ไม่มีสินค้าจีนแข่ง และฐานะการเงินเป็น Net Cash โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายพีอี 11 เท่า เทียบกับกลุ่มสีในต่างประเทศที่ 23 เท่า
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
