รีเซต

ค้าปลีกลุ้นมาตรการรัฐ  CRC พร้อมเสิร์ฟดีมานด์

ค้าปลีกลุ้นมาตรการรัฐ  CRC พร้อมเสิร์ฟดีมานด์
ทันหุ้น
23 กันยายน 2568 ( 00:30 )
8

แหล่งข่าวจากกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมค้าปลีกช่วงไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา หนุนจากการเข้าช่วงไฮซีซันของการจับจ่ายใช้สอย, ช่วงไฮซีซันของการเดินท่องเที่ยว  

  ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังประกาศเตรียมดำเนินมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย อาทิ โครงการ “Easy E-Receipt” ควบคู่มาตรการเสริมสภาพคล่องระยะสั้น อาทิโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภาคครัวเรือนออกมาอย่างต่อเนื่อง

                พร้อมกันนี้ กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลยังคงดำเนินกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าที่ได้รับความนิยมทั้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลก  แบรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยม  สินค้าท้องถิ่นที่อยู่ในกระแส ฯลฯ มุ่งกระจายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งกลุ่มลูกค้าระดับบน รวมถึงกลุ่มสูงวัยที่มีกำลังซื้อสูง, กลุ่มเจนวาย – เจนซี ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะพิจารณาซื้อสินค้าที่ต้องการอย่างรวดเร็ว

                ทั้งนี้ ยังคงคาดหวังให้รัฐบาล ดำเนินนโยบายยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ให้ครอบคลุมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง  อาทิ พิจารณาดำเนินมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว (VAT Refund) ที่ซื้อสินค้ามูลค่าตามที่กำหนด  เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยว ฯลฯ

นายณัฐพล  คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศแล้วว่าจะนำกลับมาดำเนินการ คือ มาตรการคนละครึ่ง  และมาตรการทางภาษี รอเพียงประกาศวงเงินและกรอบเวลาที่ชัดเจน

พร้อมคัดกรองหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ โดยมาตรการ “คนละครึ่ง” หุ้นที่ได้รับอานิสงส์โดยตรง (Consumer Stable) ควรเน้นไปที่ CPAXT, BJC, CBG, NEO รวมถึง OSP และหุ้นที่มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์ทางอ้อม อาทิ CRC ซึ่งมีโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) แบรนด์ “โก โฮลเซลล์” (GO Wholesale) และ Tops 

  สำหรับมาตรการ “Easy E-Receipt” (หรือ Easy E-V / Easy E-Tax) หากสามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4/2568 นี้ และกำหนดวงเงินสูงกว่าช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา จะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลต่อยอดขายต่อสาขา ( Same-Store-Sale : SSSG )

โดยหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์จะครอบคลุมกลุ่มสินค้าขนาดใหญ่ เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้าซ่อมแซม-ตกแต่งบ้าน อาทิ HMPRO ซึ่งมีรายได้จากสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณกว่า 40% ของรายได้จากการขาย, GLOBAL, DOHOME  กลุ่มสินค้าแกดเจ็ต (Gadget), สมาร์ทโฟน (Smartphone) อาทิ Com7, สินค้าแฟชั่น ฯลฯ อาทิ  CRC เป็นต้น

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง