ลงทุนคริปโทฯอย่างไรให้ปลอดภัย? คำตอบอยู่ใน 4 มาตรการนี้!

#คริปโทเคอร์เรนซี #ทันหุ้น - แม้ว่าจะเกิดกระแสข่าวเกี่ยวกับการถูกแฮกแพลตฟอร์มของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลบางรายในประเทศไทย แต่ในขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และนักลงทุนยังคงสามารถเชื่อมั่นในการลงทุนผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่มีใบอนุญาตในประเทศได้ ด้วยปัจจัยด้านความปลอดภัยที่สำคัญดังต่อไปนี้

1. แยกสินทรัพย์ลูกค้าชัดเจน: ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องแยกสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินของลูกค้าออกจากสินทรัพย์ของบริษัทอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทล้มละลายหรือถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ทรัพย์สินของลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบ และบริษัทไม่สามารถนำเงินของลูกค้าไปใช้ในทางอื่นที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ได้
2. มาตรฐานการจัดเก็บสินทรัพย์: มีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดเกี่ยวกับการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล โดยส่วนใหญ่จะกำหนดให้จัดเก็บใน Cold Wallet หรือในรูปแบบออฟไลน์ในสัดส่วนที่สูง เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกแฮกจากการโจมตีทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังต้องมีการฝากสินทรัพย์ไว้กับผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (Custodian) ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม
3. ความโปร่งใสที่ตรวจสอบได้: ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในและต่างประเทศมีการเปิดเผย Proof of Reserves เพื่อแสดงปริมาณและมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าที่บริษัทเก็บรักษาไว้ในบัญชีเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสของระบบการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้าที่สามารถตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง
4. ข้อกำหนดด้านเงินทุนและการฟอกเงิน: ผู้ประกอบธุรกิจที่ทำหน้าที่เก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้าจะต้องดำรงสถานะเงินกองทุนขั้นต่ำไว้ที่ 25 ล้านบาท และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อย่างเคร่งครัด

ดังนั้น การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ให้บริการที่มีใบอนุญาตในประเทศจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากมีมาตรการดูแลรักษาทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ ตลอดจนมีช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าถึงได้อย่างสะดวก ทำให้นักลงทุนอุ่นใจได้มากขึ้น