UOBAMชี้ดบ.ขาลงหนุนกลุ่มรีท การเมืองไทยคลายหลังมีนายกฯ

#UOBAM #ทันหุ้น - UOBAM ตลาดคาดหวังเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย กันยายนนี้ หลังอัตราตัวเลขว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น มองเป็นบวกต่อกลุ่ม REITs และโครงสร้างพื้นฐาน เหตุต้นทุนลด ขณะที่การเมืองญี่ปุ่นร้อนแรง มองไม่มีนัยสำคัญต่อสินทรัพย์ลงทุน เพราะผ่านการปฏิรูปรอบใหญ่มาแล้ว ส่วนการเมืองไทย นายกฯคนที่ 32 ลดแรงกดดันทางการเมืองระยะสั้นได้
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ UOBAM เผยภาพรวมการลงทุนว่า ตลาดปรับเพิ่มความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดในคืนวันที่ 17 กันยายน 2568 (ตามเวลาไทย) หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนสิงหาคมออกมาตํ่ากว่าคาดที่ 22,000 ตําแหน่ง จากคาดการณ์ 75,000 ตําแหน่ง โดยอัตราการว่างงานเดือน สิงหาคมออกมาตามคาดการณ์ที่ 4.3% เร่งตัวขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่ 4.2%
*ตัวเลขแรงงานชะลอ
โดยเงินเฟ้อค่าจ้างรายชั่วโมงเดือนสิงหาคม เทียบรายปีออกมาตามคาดการณ์ที่ 3.7% ลดลงจากเดือนก.ค.ที่3.9% รวมถึงการจ้างงานภาคเอกชน ADP (เป็นตัวเลขชี้วัดที่ประกาศก่อนรายงานการจ้างงานของรัฐบาล (Non-Farm Payrolls) 2 วัน ) เดือน สิงหาคมออกมาน้อยกว่าคาดที่ 54,000 ตําแหน่ง จากคาดการณ์ 65,000 ตําแหน่ง ส่วนการเปิดรับสมัครตําแหน่งงานใหม่ (Job Openings and Labor Turnover Survey : JOLTs) เดือนกรกฎาคมน้อยกว่าคาดที่ 7.181 ล้านตำแหน่ง จากคาดการณ์ 7.4)
ซึ่งภาพรวมตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐสะท้อนสัญญาณการชะลอลงอย่างสอดคล้องกันในทุกชุดตัวเลข เพิ่มความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด และสนับสนุนหุ้นในกลุ่มที่เคลื่อนไหวสัมพันธ์กับดอกเบี้ย เช่นกลุ่มรีท (REITs) และโครงสร้างพื้นฐานจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10ปี (US 10Y Yield) ปรับตัวลงมาใกล้เคียงระดับ4.1% ซึ่งช่วยลดต้นทุนทางการเงิน (Discount Rates) ให้กับกลุ่มดังกล่าว
*การเมืองไม่กระทบ
สำหรับญี่ปุ่น ประเด็นการเมืองที่ นายชิเกรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย(แอลดีพี) ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายก บลจ.ยูโอบี มองว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อสินทรัพย์ลงทุน เนื่องจากการปฏิรูปธรรมาภิบาลรอบใหญ่ในหลายปีที่ผ่านมาต่อบริษัทจดทะเบียนญี่ปุ่นส่งผลดีต่อแนวโน้มการเติบโตของกําไรต่อหุ้นของหุ้นญี่ปุ่น
รวมถึงการที่ทางการญี่ปุ่นส่งเสริมการเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) โดยการที่ค่าจ้างแรงงานคอนเฟิร์มสัญญาณการหลุดจากเงินฝืดคาดว่าจะสนับสนุนโมเมนตัมกําไรหุ้นขนาดกลางเล็กมากขึ้นในระยะถัดไปโดยเฉพาะหุ้นคุณภาพที่มีระดับราคาต่อมูลค่าสมเหตุสมผล
*ลดแรงกดดัน
ทางด้านหุ้นไทย มีปัจจัยเชิงบวกโดยได้อานิสงส์จากความชัดเจนการเมืองในประเทศหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูลได้รับการโหวตและได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ซึ่งลดแรงกดดันด้านความไม่แน่นอนทางการเมืองในระยะสั้นช่วงปลาย ปี 2568
สำหรับกองทุนนำแนะกระจายลงทุนในหุ้นโลก และตราสารหนี้ โดยกองทุนตราสารหนี้ แนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ (UGIS) ลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund (Class I) โดยมีการกระจายการลงทุน ในตราสารหนี้ทั้ง ภาครัฐและเอกชนทั่วโลก เพื่อสร้างกระแสรายได้ในระดับสูง
ส่วนหุ้นโลก แนะนำ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อิควิตี้ แอบโซลูท รีเทิร์น (UGEAR) บนความผันผวนและความเสี่ยงที่สูงขึ้น เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีค่าความสัมพันธ์กับกองทุนหุ้นโลกอื่นๆ ที่ต่ำมาก โดยกองทุน UGEAR ลงทุนในกองทุนหลัก Jupiter Merian Global Equity Absolute Return Fund (Class I USD Accumulation) นโยบาย การลงทุนเพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกโดยไม่ขึ้นกับภาวะตลาดในแต่ละขณะ
และกองทุนที่ใช้กลยุทธ์ All weather Strategy แนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล สตาร์ อิควีตี้ ฟันด์ (UGSTAR) ที่มีหุ้นครบทุก Character (Style Agnostic) เน้น Global Equity Allocation และอีกกองทุน กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ดูเรเบิ้ล อิควิตี้ ฟันด์ (UGD) จากการเป็นหุ้นขนาดกลางที่รายได้ และกําไรผันผวนตํ่า สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อขยับเพิ่มขึ้น โดยหุ้นที่กองทุนลงทุนนั้นซํ้ากับกองทุนหุ้นโลกอื่นๆ ค่อนข้างน้อย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
