เจพีมอร์แกนมั่นกลุ่มPTT ชมกลยุทธ์ปรับโครงสร้าง

#เจพีมอร์แกน #PTT #ทันหุ้น – เจพี มอร์แกน อัพราคาเป้าหมาย-เพิ่มน้ำหนักลงทุน หุ้นกลุ่มปตท. ดันเทรดคึกคัก ด้านนักวิเคราะห์ มอง หุ้น PTT มีโอกาสราคาขึ้นแตะ 36-38 บาทต่อหุ้น หลังธุรกิจบริษัทลูกๆ ดีขึ้นหลังทำ กลยุทธ์ Asset Monetization - มีลุ้นจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังสูง แนะซื้อ ถือยาวได้
JP Morgan ปรับราคาเป้าหมายหุ้นกลุ่มปตท. นำโดย PTT เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 37 บาทต่อหุ้น จากเดิม 34 บาท, PTTGC ปรับราคาเป้าหมายเป็น 30 บาทต่อหุ้น จาก 28 บาท หุ้น TOP Upgrade to Neutral ราคาเป้าหมาย 37 บาท และ OR - Upgrade to Overweight ราคาเป้าหมาย 16 บาท
@มีลุ้นราคาพุ่ง
นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า มีโอกาสที่ราคาหุ้นของ PTT จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 36-38 บาทต่อหุ้นได้ เนื่องจากบริษัทลูกๆ อย่าง PTTGC TOP มีการขายสินทรัพย์และเช่ากลับ ภายใต้กลยุทธ์ Asset Monetization เป็นการทำเพื่อสร้างกระแสเงินสดมาลดหนี้ แต่ยังคงรักษาความสามารถในการดำเนินงานจากการเช่าใช้กลับมาทำให้มี กำไรหลังหักภาษีจะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น
ธุรกรรมนี้ แม้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่มองว่าเป็นการสร้างมูลค่าผ่านวิศวกรรมการเงิน มากกว่าการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ธุรกรรมนี้ เป็นความจำเป็นต่อทั้ง TOP และ PTTGC เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สิน net debt to Ebitda, net debt to equity เพื่อให้สามารถรักษาเครดิตเรตติ้ง ดังนั้นจึงมีมุมองธุรกรรมของทั้ง TOP และ PTTGC เป็นบวก เพราะอย่างน้อย เป็นการลดความเสี่ยงสภาพคล่อง แรงกดดันด้านการรักษาเครดิตเรตติ้ง และยังเป็นการเพิ่มเงินสด ลดหนี้ เพิ่มกำไร โดยเมื่อบริษัทลูกๆ ดีก็จะส่งมาถึงบริษัทแม่
นอกจากนี้มีโอกาสที่ PTT จะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น เพราะจะมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น บริษัท Lotus Pharmaceutical Company Limited (Lotus) ทำให้ทั้งปี 2568 จะมีการจ่ายเงินปันผลรวม 2.3-2.5 บาท สูงกว่าทั้งปี 2567 ที่จ่ายเงินปันผลรวม 2.10 บาท โดยงวดครึ่งปีแรก 2568 PTT ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 0.90 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ดังนั้นมองว่านักลงทุนสามารถที่จะซื้อและถือลงทุนในหุ้น PTT ได้ในระยะยาว
@บริษัทลูกแกร่งขึ้น
นายเอกรินทร์ วงษ์ศิริ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวกับ “ทันหุ้น” ว่า หุ้นกลุ่มปตท.กลับมาซื้อขายคึกคัก จาก PTT เดินหน้าโครงการ A1-Core เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ของกลุ่ม โดยทนเห็นทรัพย์สำคัญอย่างท่าเรือ และถังกักเก็บมาอยู่ภายใต้การดูแลของ PTT Tank โดยผ่าน "New Sub" ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งใหม่ที่ PTT Tank ถือหุ้น 100% ให้เป็นศูนย์กลางหลัก (Infrastructure Flagship) ของกลุ่ม ซึ่งการดำเนินการนี้ช่วยให้ PTTGC และ TOP สามารถปลดล็อกมูลค่าทรัพย์สินที่ถืออยู่ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และยังทำให้ธุรกิจหลักของทั้ง 2 บริษัทมีความแข็งแรงมากขึ้น
สำหรับการซื้อสินทรัพย์ของบริษัทลูกมา ทำให้ PTT เป็นเจ้าของสินทรัพย์ อนาคตอาจจะมีการตั้งอินฟราฟันด์ ในการให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนสินทรัพย์ดังกล่าวได้ ซึ่งการเห็นภาพดังกล่าวอาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ทำให้ระยะสั้นการดำเนินงการดังกล่าวอาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับปตท.มากนัก แต่จะส่งผลดีกับ PTTGC ทำให้มีกำไรพิเศษ ราว 2,000 ล้านบาท จึงแนะนำซื้อ PTTGC โดยให้ราคาเหมาะสม 29 บาท ส่วน TOP แนะนำแค่ถือ โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 32 บาท เพราะมองการทำธุรกรรมของ TOP ไม่ได้มีการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามา แต่เป็นการทำเพื่อรักษาอันดับเครดิตเรตติ้ง ส่วนคำแนะนำหุ้น PTT ฝ่ายวิจัยแนะนำซื้อ ซึ่งมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นระดับ 33.75-34 บาทต่อหุ้นได้ จากมีโอกาสที่จ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งปีหลังมากขึ้น ทำให้ทั้งปีนี้มีโอกาสจ่ายเงินปันผลสูงกว่าทั้งปี 2567 ที่ 2.10 บาทต่อหุ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
