จังหวะเก็งกำไร? เคจีไอเปิดโผหุ้น รับอานิสงส์นโยบายรัฐสัปดาห์หน้า

#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ สรุปมุมมองต่อตลาดจาก 3 มาตรการกระตุ้นการบริโภคที่คาดว่าจะออกมาเร็วๆ นี้ โดยในส่วนของมาตรการคนละครึ่งพลัส ฝ่ายวิจัยมองว่าคณะรัฐมนตรีจะยังคงเกณฑ์สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเอาไว้เหมือนเดิม ซึ่งได้แก่ ร้านค้าขนาดเล็ก และร้านอาหารริมถนน โดยคาดว่าบริษัทที่ขายสินค้าให้กับร้านค้าขนาดเล็กอย่างเช่น CPAXT และ BJC* น่าจะได้อานิสงส์ไปด้วย สำหรับมาตรการแก้หนี้ กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มธุรกิจผู้บริโภคระดับล่างเหมาะกับการเทรดในประเด็นนี้ โดยมองว่า SAWAD* ค่อนข้างน่าสนใจ นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังเชื่อว่ารัฐบาลจะนำมาตรการ easy e-Receipt กลับมาใช้ใน Q1/69 และ จะส่งผลดีกับร้านสะดวกซื้อ และ กลุ่มธุรกิจผู้บริโภคขนาดใหญ่ ซึ่งเรามองว่าราคาหุ้น CPALL* และ CPN* ยังมี upside อีกจากประเด็นนี้
ธีมการเก็งกำไรหุ้น จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลในสัปดาห์หน้า
รัฐบาลใหม่มีกำหนดจะแถลงนโยบายในช่วงวันที่ 29-30 กันยายน หลังจากที่ได้ทำการถวายสัตย์ฯ ไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลจะใช้เวลาสองวันในช่วงวันที่ 29-30 กันยายน โดยรัฐบาลจะเปิดเผยข้อสรุปประเด็นสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และอื่น ๆ ที่จะมุ่งเน้นในช่วง 4 เดือนที่รัฐบาลมีแผนจะทำหน้าที่ โดยฝ่ายวิจัยได้เรียบเรียงประเด็นต่าง ๆ ดังกล่าวไว้ในหน้าที่ 2 ของบทวิเคราะห์ฉบับนี้ และ ได้สรุปประเด็นเด่นเกี่ยวกับ 3 นโยบายเศรษฐกิจที่น่าจะส่งผลกับหุ้นไทยไว้ดังนี้
‘คนละครึ่งพลัส’ – ไม่น่าจะใช้ได้กับห้างสรรพสินค้า และร้านค้าขนาดใหญ่
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ามาตรการคนละครึ่งพลัส ถูกออกแบบมาเพื่อให้เงินอุดหนุนในสัดส่วน 60:40 สำหรับการใช้จ่ายประจำวันของประชาชน 11 ล้านคนที่ยื่นเสียภาษี และในสัดส่วน 50:50 สำหรับประชาชนไทยกลุ่มที่เหลือ ซึ่งน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในกลางเดือนตุลาคม ในขณะเดียวกัน สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้ยื่นขอให้รัฐบาลอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า และ ร้านค้าขนาดใหญ่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมองว่าคณะรัฐมนตรีจะยังคงเกณฑ์สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเอาไว้เหมือนเดิม เพื่อให้แน่ใจว่าผลประโยชน์ส่วนใหญ่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนี้จะตกอยู่กับร้านค้าขนาดเล็ก ฝ่ายวิจัยคิดว่าบริษัทที่ขายสินค้าให้กับร้านค้าขนาดเล็กอย่างเช่น CPAXT และ BJC* จะเป็นหุ้นหลักสำหรับเทรดในประเด็นที่เกี่ยวกับมาตรการนี้ ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้ทำการศึกษาหุ้น BJC
แก้หนี้ 1 แสนบาท – เป็นบวกกับกลุ่มไฟแนนซ์ประเภท nonbank และกลุ่มธุรกิจผู้บริโภคระดับล่าง
เอกสารของรัฐบาลมีการระบุถึงแผนแก้หนี้ครัวเรือนไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ซึ่งฝ่ายวิจัยค่อนข้างแปลกใจกับขนาดของหนี้ที่สามารถเข้าร่วมในโครงการนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อคุณภาพสินทรัพย์ของธุรกิจไฟแนนซ์ประเภท nonbank และ จะช่วยหนุนกำลังซื้อของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคระดับล่าง ฝ่ายวิจัยยังคงเลือก SAWAD* เป็นหุ้นเด่นของฝ่ายวิจัยในกลุ่มไฟแนนซ์ ส่วนกลุ่มการบริโภคในต่างจังหวัด ฝ่ายวิจัยมองว่า GLOBAL* และ DOHOME* อาจจะได้อานิสงส์จากภาวะตลาดที่เป็นบวก แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าราคาหุ้นสองตัวนี้เต็มมูลค่าแล้ว
Easy e-Receipt – น่าจะนำกลับมาใช้ในช่วงต้นปี 2569 และจะส่งผลดีกับกลุ่มร้านสะดวกซื้อ และกลุ่มธุรกิจผู้บริโภคขนาดใหญ่ในช่วงต้นปี 2569 ฝ่ายวิจัยคาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการ Easy e-Receipt ซึ่งจะเปิดช่องให้นำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้คนละ 3-5 หมื่นบาท ทั้งนี้ หากอิงจากกรอบเดิมของมาตรการนี้ที่เคยใช้ในช่วงปีก่อน ๆ ฝ่ายวิจัยคาดว่าผู้ประกอบการรายหลักในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ, ห้างสรรพสินค้า และ ร้านขายอุปกรณ์ IT จะได้อานิสงส์จากมาตรการนี้ ซึ่งหากพิจารณาในเชิงของราคาหุ้น ฝ่ายวิจัยมองว่า CPALL* และ CPN* ยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ของฝ่ายวิจัยอีกพอสมควร ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคิดว่า COM7* น่าจะได้อานิสงส์จากภาวะตลาดเชิงบวกด้วย แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันเหลือ upside น้อยแล้ว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
