บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” BCPG ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 10.00 บาท/หุ้น

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” BCPG ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 10.00 บาท/หุ้น
#ทันหุ้น #BCPG บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) : BCPG ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 10.00 บาท/หุ้น ปรับประมาณการขึ้นเพื่อสะท้อนค่าความพร้อมจ่ายรอบปี 2569/70 ที่สูงกว่าคาด
ในช่วงปลายเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา ตลาดไฟฟ้า PJM ในสหรัฐฯ ได้มีการประกาศค่าความพร้อมจ่ายสำหรับช่วงมิถุนายน 2569 – พฤษภาคม 2570 (รอบปี 2569/70) ที่ระดับ 329 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เมกะวัตต์/วัน สูงกว่าสมมติฐานเดิมของเราที่ระดับ 270 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เมกะวัตต์/วัน ราว 22% โดยมีสาเหตุหลักมาจากอุตสาหกรรม Data Center ที่เติบโตต่อเนื่อง และการขยายกำลังผลิตของโรงไฟฟ้ารูปแบบ Base Load (เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และนิวเคลียร์) ในพื้นที่ของ PJM ที่ยังทำได้จำกัด
เราจึงได้ปรับประมาณการกำไรปี 2569 ขึ้นราว 9% เป็น 2,105 ล้านบาท (+33% YoY) เพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าว ทั้งนี้ PJM จะมีการประกาศค่าความพร้อมจ่ายสำหรับช่วงมิถุนายน 2570 – พฤษภาคม 2571 (รอบปี 2570/71) ในเดือนธันวาคม 2568 โดยเบื้องต้นคาดว่าค่าความพร้อมจ่ายในรอบดังกล่าวจะยังคงทรงตัวเหนือระดับ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เมกะวัตต์/วัน ได้อย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มกำไร 3Q25 คาดเติบโตทั้ง QoQ และ YoY รวมถึงเป็นจุดสูงสุดของปี
เบื้องต้นคาดว่ากำไรปกติ 3Q25 จะอยู่ที่ระดับ 600–700 ล้านบาท เติบโต QoQ และ YoY ต่อเนื่อง รวมถึงคาดว่าเป็นจุดสูงสุดของปี โดยได้แรงหนุนจาก 1) ปัจจัยฤดูกาลของโครงการน้ำในลาวและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ และ 2) การรับรู้การปรับขึ้นค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เป็น 270 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เมกะวัตต์/วัน แบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก (เพิ่มกำไรให้บริษัทฯ ได้ราว 250–300 ล้านบาท/ไตรมาส เมื่อเทียบกับค่าความพร้อมจ่ายเดิม)
ขณะที่โครงการลม Monsoon ในลาวคาดว่าจะยังไม่สร้างส่วนแบ่งกำไรที่มีนัยสำคัญ แม้จะ COD ครบทั้งโครงการแล้วในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากโดยปกติแล้วช่วง 3Q จะเป็น Low Season ของโครงการ (High Season จะอยู่ในช่วง 2Q) ทั้งนี้ หากมองไปยัง 4Q25 คาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 500–600 ล้านบาท ลดลง QoQ เพราะถูกกดดันจากปัจจัยฤดูกาลของโครงการน้ำในลาว ขณะที่ YoY สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากค่าความพร้อมจ่ายที่สูงขึ้น และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Monsoon แบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก
ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 10.00 บาท/หุ้น – คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ผลจากการปรับประมาณการขึ้นและการเปลี่ยนไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2569 ส่งผลให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 10.00 บาท/หุ้น มี Upside 20.5% แม้ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น (เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นอาจส่งผลให้การลงทุนเพื่อขยายอุตสาหกรรม Data Center ชะลอตัวจากช่วงก่อนหน้า)
แต่เรามองว่าในระยะกลาง–ยาว หุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากคาดว่าภาคเอกชนและรัฐบาลสหรัฐฯ จะยังคงมีการลงทุนในอุตสาหกรรม Data Center และ AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันให้อยู่ในระดับสูง (ลดความเสี่ยงจากธุรกิจ AI ของประเทศอื่นที่อาจเข้ามาแข่งขันในอนาคต) ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
