เครียดถูกไล่ออกจากงาน ปีนเสาสูงร่ำไห้ ภรรยา-ลูกช่วยเกลี้ยกล่อม

หนุ่มโรงงานเครียด หลังถูกสั่งให้ออกจากงานตัดสินใจปีนเสาสูงกว่า 110 เมตร ภรรยาและลูกรีบมาช่วยเกลี้ยกล่อม ขณะที่เพื่อนตัดสินใจปีนเสาช่วยเหลือจนรอด

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 ก.ย. พ.ต.ท.ประยุทธ ดานะ สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุมีผู้ปีนเสาส่งสัญญาณมือถือ บริเวณซอยประคอง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.หนามแดง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราร่วมตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณเสาส่งสัญญาณมือถือ ที่มีความสูงถึง 110 เมตร พบนายจำรัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี นั่งห้อยขาบริเวณกลางเสา หรือประมาณความสูง 55 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตาม ภรรยาและลูกสาว ของนายจำรัส มาพูดจาเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผลกลับทำให้ นายจำรัส ปีนขึ้นไปอยู่บนยอดสุดของเสาส่งสัญญาณ

เจ้าหน้าที่จึงได้ตามพ่อและแม่ของนายจำรัส ให้มาพูดคุย จนเวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ไม่มีที่ท่าว่าจะยอมลงมา จึงได้ตามฝ่ายบุคคลของโรงงานที่ นายจำรัส ทำงานอยู่มาพูดเกลี้ยกล่อม จนทำให้ใจเย็นลง และอนุญาตให้ นายเนตรนิรันด์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี เพื่อนร่วมงานปีนขึ้นไปหาด้านบนได้ ทำให้สถานการณ์เริ่มเบาลง

จนกระทั่งเวลาผ่านไป เกือบ 3 ชั่วโมง นายจำรัส ตัดสินใจยอมลงมา แต่เนื่องจากมีความสูงมากประกอบกับเริ่มมีอาการเพลีย ทำให้ นายจำรัส และนายเนตรนิรันด์ ต้องพักตามชั้นลอยบนเสาส่งสัญญาณเป็นระยะ ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา จึงต้องปีนนำน้ำขึ้นไปส่งมอบให้ทั้ง 2 ได้ดื่ม ก่อนทั้งหมดจะปีนลงมาถึงพื้นได้สำเร็จในเวลา 23.50 นาที

จากนั้น นายจำรัส ข้ามาสวมกอดภรรยาและลูกสาว ที่มายืนรอเฝ้าอยู่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่จึงทำการปฐมพยาบาลก่อนนำตัวขึ้นรถ เพื่อส่งตัวไปยังโรงพยาบาลพุทธโสธร เพื่อทำการรักษาเนื่องจากอาการอ่อนเพลีย แต่ในขณะที่นายจำรัส นอนอยู่บนรถ ได้ลุกขึ้นมา ยกมือไหว้ขอโทษและกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ

ภรรยาของนายจำรัส กล่าวว่า นายจำรัส ทำงานเป็นหัวหน้าสายงานการผลิตตู้แช่ ของ บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุ สามีตนได้มาเล่าให้ฟังว่า ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเรียกเข้าไปพบ เนื่องจากมีพฤติกรรมดื่มสุรา ทำให้มีผลกระทบต่องานมาหลายครั้ง จนวันนี้ทางโรงงานให้ออกจากการทำงาน จึงรู้สึกเครียด

ก่อนที่นายจำรัส จะหายออกจากบ้านเมื่อช่วงเย็น จนมีคนมาตามว่าสามีของตนปีนขึ้นเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ จึงรีบออกมาดู และก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โชคดีที่สามีของตนยังคิดถึงครอบครัว ยอมลงมาได้อย่างปลอดภัย ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ

ด้าน นายเนตรนิรันด์ เพื่อนร่วมงาน กล่าวว่า ตนเองเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ด้านล่างอยู่พักใหญ่ และไม่มีทีท่าว่าจะยอมลงมา ประกอบกับได้ยินที่ภรรยานายจำรัส คุยกับเจ้าหน้าที่ว่า หากยาที่ นายจำรัส กินหมดฤทธิ์ นายจำรัสจะน็อคและนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัวจึงรู้สึกห่วงเพื่อน

ซึ่งก่อนที่จะปีนขึ้นเสาไปหาเพื่อน ไม่รู้เลยว่าเสาจะมีความสูงขนาดนี้ ตั้งใจปีนขึ้นไป เพื่อช่วยเหลือเพื่อนให้ปลอดภัย จนขึ้นไปด้านบนแล้วได้พูดปลอบได้สำเร็จ จนยอมลงมาด้วย ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนให้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนี้มาได้