ม่วงทองสั่งสมประสบการณ์จัดการสุขภาวะชุมชนสู่งานสื่อสารรับโควิดสบาย
กว่า 3 ปีมาแล้วที่ชาวบ้านม่วงทอง หมู่ที่ 9 ต.แม่คำมี อ.เมือง จ.แพร่ ทำงานหนักการการส่งเสริมของสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ในการพัฒนาการผลิตอาหารปลอดภัยรับประทานเอง โดยเฉพาะการทำการเกษตรในครัวเรือนเพื่อให้มีผักไว้รับประทาน นอกจากนั้นยังมีการฝึกการกำจัดขยะมีระบบการคัดแยก สิ่งเหล่านี้เป็นความยากลำบากของชุมชนที่ได้ร่วมโครงการในระยะแรก แต่เมื่อทำบ่อยๆ ก็เกิดเป็นทักษะ
หลังจาก 1 เดือนที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ส่งผลกระทบรุนแรงไม่เพียงประเทศไทยแต่กระทบไปทั่วโลก คือ ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน และสิ่งที่ตามมาคือปัญหาความเป็นอยู่ อาหารขาดแคลน ตามมา หลายประเทศประชากรถูกกำหนดให้หยุดงานอยู่กับบ้าน แต่ไม่มีระบบอาหารในชุมชน จนกลายเป็นภาระของรัฐบาลต้องจัดการ แต่ในประเทศไทย โดยเฉพาะที่บ้านม่วงทอง นอกจากทำตามมาตรการอยู่บ้านช่วยชาติได้อย่างดีแล้ว ยังมีการพัฒนาระบบป้องกันขึ้นในชุมชน มีการเฝ้าระวังโดยอาสาสมัครทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นายประเสริฐ อุดธรรมใจ ผู้ใหญ่บ้านม่วงทอง หมู่ 9 กล่าวว่า สิ่งที่เราทำมาอย่างยากลำบากกว่าชุมชนจะเกิดความเข้าใจว่า การสร้างศักยภาพของครัวเรื่อนในการจัดการขยะ จัดการอาหารได้เอง ถ้าสภาวะปกติดูเหมือนว่าไม่จำเป็น แต่มันไปลดรายจ่ายให้กับครัวเรือน พอมาถึงช่วงสภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ตรงนี้ชุมชนเห็นได้ชัดว่า การทำงาน 3 ปีที่ผ่านมามีประโยชน์มากที่ชุมชนดำเนินการภายใต้การสนับสนุนของ สสส. คนในชุมชนที่ไปทำงานต่างถิ่น ช่วงประกาศภาวะฉุกเฉิน ตกงานไม่มีรายได้ กลับมากักตัวในชุมชน อยู่ในชุมชนได้อย่างสบาย ๆ เพราะเราไม่เดือดร้อนเรื่องอาหาร เรามีอาหารรับประทานเองในครัวเรือน
ต้องขอขอบคุณ สสส. ที่สร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง และมั่นคงทางอาหารและความสะอาด และขอบคุณ สสส. ที่เข้ามาช่วยอบรมการเขียนข้อมูลที่เกิดขึ้นพัฒนาเป็นข่าวสร้างระบบสื่อสารไปยังชุมชนอื่นด้วยระบบโซเชียล ถ่ายภาพเคลื่อนไหว ถ่ายภาพนิ่ง ตัดต่อเป็นเรื่องราว สื่อสารการทำงานได้ด้วยโทรศัพท์ เครื่องเดียว จากนี้ไป เราชาวบ้านม่วงทองจะเป็นบ้านที่มีความเข้มแข็งมั่นใจที่จะรับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามายังหมู่บ้านได้อย่างดี และเราพูดได้เต็มปากว่าเราคือ “ชุมชนน่าอยู่” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว