พ่อเมืองกรุงเก่าตรวจห้างรับมือคนแห่ใช้บริการ
พระนครศรีอยุธยา-พ่อเมืองกรุงเก่าตรวจสถานประกอบการห้างสรรพสินค้ารับมือปลดล็อค เฟส 2 พบคนแห่ซื้อของไม่รักษาระยะห่าง สั่งห้างเพิ่มมาตารการเข้ม ขณะที่แอพพลิเคชั่นไทยชนะ ล่ม
วันที่ 17 พ.ค.63 เมื่อเวลา 10.15 น. นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่ผ่อนปรน ระยะที่ 2 โดยเดินทางไปที่บ้านพักคนชราวาสนะเวศม์ ต.บ่อโพง อ.นครหลวง ห้างโกล บอลเฮ้าส์ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน และศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ห้างโรบินสันอยุธยา โลตัส อ.พระนคร ศรีอยุธยา โดยเฉพาะที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค พบว่ามีประฃาชนมาใช้บริการกันจำนวนมาก
โดยทางศูนย์การค้าได้มีการตั้งจุดคัดกรองทางเข้าทุกจุด ด้วยการสแกนวัดอุณหภูมิร่างกาย การใช้เจลแอลกอฮอล์ล และยังเน้นย้ำต้องใส่หน้ากากอนามัย โดยการเข้าใช้บริการร้านค้า และจุดบริการต่างๆ ยังต้องเว้นระยะห่าง แต่ปรากฏว่ามีลูกค้ามาใช้บริการมาก หลังจากห้างปิดบริการบางส่วนไปนาน จึงพากันมาจำนวนมาก ซึ่งจนท.พยายามที่จะแนะนำให้เว้นระยะการรอใช้บริการ อีกทั้งยังต้องให้โหลดแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้ลูกค้าโหลดเพื่อสแกนเข้าและออก ในการตรวจสอบจำนวนคนในการใช้บริการ ซึ่งพบว่าจะนวนคนที่ลงทะเบียนมากจนทำให้แอพพลิเคชั่นล่ม ในส่วนศูนย์อาหารของศูนย์การค้าแห่งนี้ยังคงปิดและจะเปิดในวันที่ 20 พ.ค.
นายภานุ แย้มศรี กล่าวว่า วันนี้การลงพื้นที่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ประชาชนออกมาใส่หน้ากากกันทุกคน การผ่อนปรนวันแรกบรรยากาศคึกคัก พร้อมย้ำพ่อค้าแม่ค้าอย่าละทิ้งมาตรการ ขอให้เน้นการจัดคิว การจัดระยะห่างในการให้บริการ ลดการแออัดการป้องกันระวังโรคโควิด-19 วันนี้ไปเยี่ยมสถานที่ที่ได้รับการผ่อนคลาย อาทิ บ้านพักคนชรา ร้านตัดผม ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เพื่อพูดคุย แนะนำและขอความร่วมมือจากร้านค้าต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่ถูกวิธี
เมื่อเปิดบริการและคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยขอให้ทุกคนได้ ตระหนักถึงการป้องกันตนเองพร้อมเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตแบบใหม่ New Normal พร้อมกระตุ้นสถานประกอบการให้มีการลงทะเบียนใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” หรือลงทะเบียนด้วยระบบมือ ซึ่งจะทราบจำนวนผู้เข้าใช้บริการและลดการแออัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดรอบ 2 หากพบมีผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามตัวมาสอบสวนโรคได้ ทั้งนี้ยังสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะมาใช้บริการด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบยังพบว่าประชาชนยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องการลงแอพพลิเคชั่นไทยชนะ และการรักษาระยะห่าง ซึ่งทั้งหมดนี้คือความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นนั่นเอง