CIยอดจองภูเก็ตพุ่ง ตั้งเป้ารายได้พันล.

#CI #ทันหุ้น – CI รับทรัพย์ท่องเที่ยวภูเก็ตฮอต หนุนยอดจองห้องพักภูเก็ตไตรมาสแรกโตเเรง 60-70% คาดเพิ่มต่อเนื่องในไตรมาส 2/2566 คาดโกยอัตราการเข้าพักเเตะ 70-80% พร้อมตั้งเป้ารายได้ธุรกิจโรงเเรมปีนี้ที่ 900-1,000 ล้านบาท ด้านธุรกิจอสังหาวางงบซื้อที่ดิน 1,000 ล้านบาท เตรียมเปิด 3-4 โครงการใหม่ ในกรุงเทพฯ-หัวหิน-ภูเก็ต
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทมีตัวเลขอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ที่ราว 60-70% โดยในช่วงเดือนมีนาคมมีอัตราการเข้าพักชะลอตัวลงเล็กน้อย
*ยอดจองห้องพักพุ่ง
แต่คาดว่าในไตรมาสที่ 2/2565 ตัวเลขอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate)จะเพิ่มขึ้นเป็นที่ราว 70-80% โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาในระยะนี้มาจากนักท่องเที่ยวในประเทศไทย, ตะวันออกกลาง และรัสเซีย โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน แม้จะมีการเปิดประเทศแล้วในปัจจุบัน แต่ยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งต้องรอว่าหลังจากนี้จะสามารถเข้ามาได้มาน้อยแค่ไหน แต่บริษัทมั่นใจว่าหากมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของธุรกิจโรงแรมทั้งในภูเก็ตและหัวหิน ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรมเติบโตขึ้นที่ 900-1,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 60% จากปี 2565 ที่มีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในปัจจุบัน
*ตั้งงบซื้อที่ดิน 1 พันล.
ทางด้านภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 โดยปีนี้บริษัทมองว่าการตัดสินใจซื้อบ้านและคอนโดที่อยู่อาศัยและการลงทุนจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ซึ่งบริษัทวางงบซื้อที่ดินไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เเละมีเเผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ราว 3-4 โครงการ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนก่อสร้างราว 5,000-6,000 ล้านบาท เเบ่งออกเป็นโครงการในกรุงเทพฯ, ภูเก็ต เเละหัวหิน เป็นต้น ซึ่งหนึ่งโครงการในที่นี้มีที่ดินรองรับเป็นที่เรียบร้อย เเละที่เหลือบริษัทอยู่ระหว่างหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ
ส่วนยอดขายรอโอน (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ปี 2566 ราว 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการอิสสระเรสซิเดนซ์ พระราม 9 เเละบ้านอิสสระ บางนา รวมถึงคอนโดมิเนียมโครงการในต่างจังหวัดของบริษัท ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม ศศรา หัวหิน (SASARA Hua Hin) เเละโครงการ ทิวทะเลเวิลด์ ชะอำ - หัวหิน ซึ่งคาดว่าจะทยอยโอนไปจนถึงปี 2568
*เล็งออกหุ้นกู้
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมออกหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 มูลค่าหุ้นกู้ที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท ราคาเสนอขายหุ้นกู้หน่วยละ 1,000 บาท ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.85-7.00% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ส่วนชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อายุหุ้นกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.10-7.25% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
ทั้งนี้บริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด ต่อผู้ลงทุนสถาบัน หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2566 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ คือ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บล.เอเซีย พลัส, บล.บลูเบลล์ และบล.ไอ วี โกลบอล โดยอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ BB แนวโน้ม "คงที่" โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565