รีเซต

รวบสาวแสบ อำพรางตัวเป็นคนสูญหาย หนีคดียาเสพติดนับ 17 ปี สุดท้ายไม่รอด

รวบสาวแสบ อำพรางตัวเป็นคนสูญหาย หนีคดียาเสพติดนับ 17 ปี สุดท้ายไม่รอด
มติชน
18 สิงหาคม 2565 ( 11:04 )
68
รวบสาวแสบ อำพรางตัวเป็นคนสูญหาย หนีคดียาเสพติดนับ 17 ปี สุดท้ายไม่รอด

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุด pct 5, พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.ภ.2 ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พร้อมชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบภ.2 ร่วมกับ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.1 บก.สส.ภ.2, พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.ฯ, พ.ต.ต.สุริยะ น้อยภักดี สว.ฯ, พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.ฯ ชุดปฎิบัติการ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

 

นำกำลังสืบจับกุม น.ส.ฉัตรแก้ว สัตยเวทย์ อายุ 42 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสระแก้ว “ในคดีความผิดตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษฯ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิต” ได้หลบหนีไม่มาฟังคำสั่งศาล และหลบมาอยู่ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยอำพรางตัวจำหน่ายเป็นบุคคลสูญหาย โดยให้ผู้อื่นแจ้งต่อนายทะเบียนว่าตนเป็นบุคคลสูญหายเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจับกุมม ขณะมาขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ จึงจับกุมตามหมายจับ

 

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าสอบถามผู้ต้องหารับว่า เมื่อปี พ.ศ.2547 ข้ามไปเล่นพนันกับนายศักดิ์สิทธิ์ฯ แฟนในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากนั้นซื้อยาบ้ามา 200 เม็ด และข้ามชายแดนกลับมายังฝั่งไทย อรัญประเทศ พร้อมยาเสพติดซุกซ่อนในชุดชั้นใน จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมของกลางถูกจับกุมในข้อหา​ ร่วมกันนำเข้าซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) เข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ​ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)​ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดย​ผิดกฎหมาย​ และใช้เงินสด 5 แสนบาทประกันตัวออกมา

 

 

แต่ไม่ไปรายงานตัวและฟังคำพิพากษา หลังจากประกันตัวที่ชั้นศาลได้ไม่นาน คิดวางแผนที่จะหลบหนีโดยการจำหน่ายตัวตนออกจากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ว่าเป็นบุคคลสาบสูญ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและติดตามตัว ซึ่งศาลจังหวัดสระแก้วตัดสินนายศักดิ์สิทธิ์ จำคุกตลอดชีวิตคดีสิ้นสุดชั้นฎีกา และออกหมายจับ น.ส.ฉัตรแก้ว หมายจับที่ 60/2548 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2548 ตามข้อหา พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ จากนั้นจึงหลบหนีคดีมาอย่างยาวนาน จนทางการไม่พบความเคลื่อนไหว และไม่สามารถติดต่อได้ เหตุที่อำพรางตัวตนเนื่องจากเป็นคดีติดตัวซึ่งมีอัตราโทษที่สูง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมได้เสียก่อน จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหา ส่งศาลจังหวัดสระแก้วดำเนินการตามกฎหมาย

 

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ในปัจจุบันนั้นกลุ่มผู้ต้องหามีวิธีการหลบเลี่ยงการจับกุมหลากหลายวิธีการ แต่ไม่สามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เพราะอาชญากร มักจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ ซึ่ง บก.สส.ภ.2 และ ศปอส.ตร. เน้นย้ำกับคณะทำงานระดมกวาดล้างติดตามจับกุมผู้ที่กระทำผิดกฎหมายมาโดยตลอด แม้ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลตามตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง