เรือชนกันกลางแม่น้ำบางปะกง หนุ่มตกน้ำ สูญหาย 1 ราย
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม ร.ต.อ.ประสิทธิ์ ธงสี รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านสร้าง ได้รับแจ้งมีเหตุเรือชนกันกลางแม่น้ำบางปะกง มีผู้สูญหายภายในน้ำเป็นชาย 1 ราย จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรีและกู้ภัยฉะเชิงเทรา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณท่าข้าวสิริธงชัย หมู่ 1 ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พบเรือคล้ายเรือสปีดโบ๊ตสีขาว (เรือหาปลาญี่ปุ่น) จอดอยู่ริมแม่น้ำ มีสภาพร่องรอยความเสียหายเล็กน้อยบริเวณด้านหน้าของเรือ พบคนที่โดยสารในเรือมี จำนวน 3 ราย และสุนัขอีก 1 ตัว ส่วนเรืออีก 1 ลำ ได้รับความเสียหายพังยับ และมีผู้สูญหายเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสราวุฒิ จิตรภักดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญเจ้าของเรือ พร้อมผู้โดยสารที่เดินทางมากับเรือมาสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ก่อนจะเชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บ้านสร้าง
บริเวณที่เกิดเหตุพบ นางสาวหนึ่ง มาลาเล็ก ภรรยาของผู้สูญหาย ร้องไห้ พร้อมตะโกนเรียกชื่อหาผู้สูญหายอยู่ตลอด โดยมีญาติๆ พยายามโอบกอดและปลอบขวัญอยู่ไม่ห่าง หลังจากนั้นนางสาวหนึ่งได้นำธูปพร้อมเหล้าขาว 1 ขวด และบุหรี่ 1 มวน จุดขอขมาเจ้าที่เจ้าทางก่อนที่บรรดาอาสากู้ภัยจะลงเรือทำการค้นหา
จากการสอบถาม นายพรชัย นวลสุวรรณ อายุ 39 ปี ผู้ที่ขับเรือมาพร้อมกันกับผู้สูญหาย เล่าว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ตนชวนผู้สูญหายไปขับเรือเล่นกันแถวบางกระเบา หลังจากนั้นจึงได้ขับเรือมาคนละลำกับผู้สูญหาย ก่อนจะมีการพุ่งชนกับเรือคู่กรณี หลังจากนั้นได้นำเรือของตนไปจอดที่ริมตลิ่งก่อนจะว่ายน้ำออกมาค้นหาผู้สูญหายแต่ก็ไม่พบ
สอบถาม นางสาวเจนจิรา พิมพ์วงษ์ อายุ 27 ปี ภรรยานายพรชัย กล่าวว่า ช่วงบ่าย 3 โมง พวกตนเดินทางไปขับเรือเล่นที่บางกระเบาก่อนจะเดินทางกลับ โดยผู้สูญหายและสามีของตนขี่เรือมาคนละลำ ส่วนตนขี่รถจักรยานยนต์ตามมา พอขี่มาได้สักพักเสียงเรือก็เงียบไป หลังจากนั้นแฟนของตนก็วิ่งร้องไห้ขึ้นมาจากริมตลิ่งแล้วตะโกนบอกว่า “เขาช่วยไม่ทัน เขาช่วยไม่ทัน” โดยบริเวณที่เกิดเหตุใกล้จะถึงบ้านของพวกตนแล้ว พอพวกตนมาบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มี หรือไม่พบใครที่จะเข้าทำการช่วยเหลือผู้สูญหายเลย โดยตนก็ไปสอบถามคู่กรณีที่ขับเรือชนกัน เขาก็บอกว่าเขาพยายามหาแล้วแต่หาไม่เจอ
จากการสอบถามคนขับเรือคู่กรณีชื่อ นายธีร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ระบุว่า ตนขับเรือมาจากบ้านสร้างเพื่อจะมุ่งหน้าบางแตน พอถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหัวโค้งพบว่ามีเรือลำหนึ่งวิ่งสวนทางขึ้นมาโดยไม่ทราบว่าเป็นเรืออะไร แต่เป็นเรือของชาวบ้านคล้ายกับเรือหางยาว ขับพ้นเรือของตนไปแล้ว แต่สักพักกลับมีเรืออีกลำหนึ่งแทรกเข้ามาแล้วก็เกิดการชนกันขึ้นกับเรือของตน โดยเรือทั้ง 2 ลำขับอยู่กันคนละฝั่งของแม่น้ำ ทำให้ตนไม่ได้สังเกต เพราะบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งของแม่น้ำ ตนก็ขับเรือมาโดยใช้ความเร็วต่ำ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ขับเรือไปชนเขา
ด้าน นายกรณ์ เจ้าของท่าข้าว สิริธงชัย ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ให้ข้อมูลว่า เรือสปีดโบ๊ตวิ่งมาอีกทางหนึ่งของแม่น้ำ และมีเรืออีก 2 ลำวิ่งตีคู่กันขึ้นไป ซึ่งก่อนหน้านั้นพบว่ามีการขับเรือแล่นกันประมาณ 10 กว่าลำโดยเรือ 2 ลำที่เกิดเหตุนั้นขับตามไปทีหลังก่อนจะเกิดเหตุ ตอนเกิดเหตุตนเห็นว่ามีร่างของคนคนหนึ่งอยู่บริเวณกลางแม่น้ำ หลังจากเกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ตคู่กรณีได้ขับมาจอดเทียบท่าก่อนจะเรียกหาคนขับเรือลงไปช่วยผู้สูญหาย ตนและประชาชนในพื้นที่ได้โทรประสานงานแจ้งหน่วยกู้ภัยลงทำการค้นหาหลังจากที่ทราบว่ามีผู้สูญหายไปในน้ำ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจุดปราจีนบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทราได้ทำการค้นหาผู้สูญหายภายในน้ำ พบอุปสรรคในเรื่องของความมืดและน้ำที่เชี่ยวกราก โดยได้ทำการค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ยังไม่พบร่างผู้สูญหาย หลังจากนั้นจึงได้เดินทางขึ้นมาร่วมประชุมวางแผนเพื่อที่จะทำการค้นหาผู้สูญหายในรอบต่อไปอีกครั้งหนึ่ง