รีเซต

แอปสร้างอวาตาร์ผู้ล่วงลับ 2Wai เทคโนโลยีใหม่สร้างความทรงจำอยู่ได้ตลอดไป

แอปสร้างอวาตาร์ผู้ล่วงลับ 2Wai เทคโนโลยีใหม่สร้างความทรงจำอยู่ได้ตลอดไป
TNN ช่อง16
18 พฤศจิกายน 2568 ( 16:47 )
9

บริษัท ทูเวย์ (2Wai) กลายเป็นไวรัลทันที เมื่อผู้ร่วมก่อตั้ง คาลัม เวอร์ธี (Calum Worthy) เผยแพร่วิดีโอโปรโมตสาธิตการใช้งานเทคโนโลยีที่สามารถสร้าง โฮโลอวาตาร์ (HoloAvatar) ของบุคคลที่เสียชีวิต โดยอ้างว่าสามารถ “พูด, แสดงท่าทาง และแชร์ความทรงจำได้เหมือนต้นฉบับ” 

แอปพลิเคชันสร้างตัวตนคนที่จากไปให้อยู่ในมือถือ

บริษัทนำเสนอเทคโนโลยีในรูปแบบ แอปพลิเคชันบนมือถือ (Mobile App) ที่เปิดให้ดาวน์โหลดบน แอปสโตร์ (Apple App Store) ให้ผู้ใช้งานสามารถอัปโหลด ภาพถ่าย, วิดีโอ, เสียงพูด และข้อมูลพื้นฐานของผู้ล่วงลับ เข้าไปในระบบ เพื่อให้เอไอสร้าง โฮโลอวาตาร์ (HoloAvatar) ที่มีหน้าตา ลักษณะเสียง และรูปแบบการพูดใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด อวาตาร์จะปรากฏบนหน้าจอในรูปแบบ วิดีโอสามมิติจำลอง ที่สามารถโต้ตอบแบบเรียลไทม์ผ่านข้อความเสียงหรือข้อความพิมพ์ได้ 

อวาตาร์คุณยายเอไอ พูดคุย-อ่านนิทาน-เล่าเรื่องในอนาคต 

วิดีโอโปรโมตของบริษัทเผยให้เห็นหญิงตั้งครรภ์พูดคุยกับอวาตาร์แม่ผู้ล่วงลับผ่านสมาร์ตโฟน จากนั้นภาพข้ามไป 10 เดือน อวาตาร์ “คุณยายเอไอ” อ่านนิทานให้ทารกฟังก่อนนอน และเมื่อเด็กโตขึ้น วิดีโอแสดงให้เห็นว่าอวาตาร์คุณยาย ก็ยังคงพูดคุยได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับเป็นสมาชิกครอบครัวจริง โดยช่วงท้ายของคลิป ชายหนุ่มในวัยผู้ใหญ่บอกกับ “คุณยายดิจิทัล” ว่าเธอกำลังจะได้เป็นทวด วิดีโอปิดท้ายด้วยข้อความ “With 2Wai, three minutes can last forever.” หรือแปลว่า “ด้วย 2Wai เพียงแค่สามนาทีก็อาจคงอยู่ตลอดไป”

โดยคาลัม เวอร์ธี (Calum Worthy) กล่าวว่า บริษัทกำลังสร้างสิ่งที่เรียกว่า “คลังชีวิตมนุษยชาติ (Living Archive of Humanity)” พร้อมตั้งคำถามว่า “หากคนที่เราสูญเสียไป จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตเราได้ จะเป็นอย่างไร ?”

สังคมตั้งคำถามด้านจริยธรรมหนัก 

แนวคิดนี้ถูกเทียบกับตอน Be Right Back (2013) ของ Black Mirror ที่ตัวละครหญิงใช้เอไอจำลองคู่รักที่เสียชีวิต ทำให้ผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากมองว่าเทคโนโลยีนี้ “น่ากลัว (nightmare fuel)”  อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่าการที่เด็กเติบโตมากับ “ญาติเอไอ” อาจส่งผลกระทบต่อ ความทรงจำ (Memory) ความผูกพัน (Attachment) และกระบวนการยอมรับความสูญเสีย (Grief Process)

ขณะเดียวกัน ยังมีความกังวลว่าหากเทคโนโลยีอวาตาร์ก้าวหน้าอีกเพียงไม่กี่ปี และรวมกับหุ่นยนต์ แอนดรอยด์ (Android) ที่สมจริงมากขึ้น วันหนึ่งมนุษย์อาจมี “หุ่นจำลองผู้ตาย” อยู่จริงในบ้าน ซึ่งจะนำไปสู่ประเด็นจริยธรรมหนักกว่าเดิม เช่น ความยินยอม (Consent) อัตลักษณ์ (Identity) และ การค้าอารมณ์ความเศร้า (Commercialization of Grief)

ซึ่งอย่างไรก็ตามวิดีโอโปรโมตของทูเวย์ได้รับความสนใจโดยมียอดเข้าชมมากกว่า 4.1 ล้านครั้งบนเอ็กซ์ (X) ภายในเวลาไม่นาน


ปัจจุบันสามารถใช้งานได้แล้วในรูปแบบแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดบน แอปสโตร์ (Apple App Store) แล้ว

แม้จะมีกระแสต่อต้านจำนวนมาก แต่ก็มีบางส่วนที่มองว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยเก็บรักษา “เสียง, เรื่องเล่า และประวัติชีวิต” ของคนที่เรารักได้อย่างทรงคุณค่า อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ย้ำว่าขอบเขตของ “ความทรงจำ” และ “ตัวตนมนุษย์” อาจถูกทำให้พร่าเลือน หากอวาตาร์เอไอถูกใช้เป็น “ตัวแทน” ของผู้ล่วงลับมากเกินไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง